| รายละเอียด | วัดโพธิ์ศรี
วัดโพธิ์ศรี ตั้งอยู่ที่ บ้านโพธิ์ศรี ต.อินทร์บุรี อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ได้สร้างขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ. 2376 ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวด้านทิศตะวันตกติดแม่น้ำเจ้าพระยา ด้าน ทิศตะวันออก ติดถนน รพช. อินทร์บุรี น้ำตาล ซึ่งด้านทิศตะวันตก มีความยาว 160 เมตร
ปีพุทธศักราช 2447 พระครูวินิตศีลคุณ (ลา ปุณณชิ) สัทธิวิหาริกรูปที่ 96 ในสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นเจ้าอาวาสปกครองวัด พระครูวินิตศีลคุณ เป็นพระเถระที่ถึงพร้อมด้วยธรรมวินัย และวัตรปฏิบัติ เป็นผู้เอาภาระธุระของพระพุทธศาสนา อาทิ จัดสร้างและปฏิสังขรณ์ถาวรวัตถุต่างๆ และจัดให้มีการศึกษาทั้งของพระภิกษุสามเณรและกุลบุตรกุลธิดาในท้องถิ่น จนเป็นที่ศรัทธาปสาทะ ของพุทธศาสนิกชนโดยทั่วไป อย่างสนิทใจ
วันที่ 23 มีนาคม 2512 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระมหากรุณาเสด็จพระราชดำเนินมาทรงประกอบพิธีผูกพัทธสีมา และได้พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้อัญเชิญพระปรมาภิไธยย่อ ภ.ป.ร. ประดิษฐานที่หน้าบันอุโบสถ ซึ่งมี เจ้าคุณสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (อุฏฐายิมหาเถระ) สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายก เป็น สังฆมหาเถระ
วันที่ 25 มีนาคม 2517 สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานพระราชานุญาตให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี และสมเด็จ พระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัคราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินมาทรงประกอบพิธีเปิดหน้าบัน พระปรมาภิไธย ภ.ป.ร. ของอุโบสถ เปิดป้ายชื่อพระครูวินิตศีลคุณ ทรงสุหร่าย และเจิมฤกษ์ อาคารโรงเรียน ศรีวินิตวิทยาคม และโรงเรียนประชาบาล ลาวิทยาคาร ซึ่งวัดสร้างขึ้นโดยมีท่านเจ้าคุณพระเทพกวีเป็นประธานในการก่อสร้าง
วันที่ 19 มิถุนายน 2527 สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินทรงยกช่อฟ้า และทรงเปิดหน้าบัน ส.ธ. วิหารวัดโพธิ์ศรีซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางนาคปรก ซึ่งเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ ที่เป็นปูชนียวัตถุของจังหวัดสิงห์บุรี
วันที่ 16 พฤศจิกายน 2537 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จมาถวาย พระกฐินสภากาชาดไทย เพื่อสร้างโรงพยาบาลอินทร์บุรี พร้อมกันนั้นได้ทรงประทับบนเรือของสภากาชาดไทยเพื่อทรงเยี่ยมประชาชนริมแม่น้ำเจ้าพระยา ณ ท่าน้ำวัดโพธิ์ศรีแห่งนี้
และสมเด็จพระสังฆราชฯ วัดราชบพิตร, สมเด็จพระสังฆราชอริยวงศาคตญาณ (จวน อุฏฐายีมหาเถระ), สมเด็จพระสังฆราช องค์ปัจจุบัน ต่างได้ให้ความอุปถัมภ์วัดโพธิ์ศรีทุก ๆ พระองค์เสมอมา
ปัจจุบัน วัดโพธิ์ศรี โดยมีภาวนาวิสุทธิเถร สัทธิวิหาริกในสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช เป็นเจ้าอาวาส มีพระภิกษุ จำพรรษา จำนวน 14 รูป สามเณร จำนวน 115 รูป รวม129รูป เป็นวัดที่มีกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาโดยตลอด เช่นมีการแสดงธรรม ทุกวันธรรมสวนะ และวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา มีศาสนสถานที่สำคัญคือ วิหารหลวงพ่อนาค, วิหารหลวงพ่อลา มีโรงเรียนพระปริยัติธรรม เปิดทำการเรียนการสอนทั้งสายสามัญ และสายปริยัติ, ศูนย์บริการการศึกษานอกโรงเรียนอำเภออินทร์บุรี, ห้องสมุดประชาชนวัดโพธิ์ศรีประวัติพระภาวนาวิสุทธิเถร
เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรี
ชาติภูมิ.....
ชาติภูมิชื่อนายรด นามสกุล เขียวคง สัญชาติไทย เชื้อชาติไทย นับถือศาสนาพุทธ เกิดที่บ้านเลขที่ ๖ หมู่ที่ ๙ ตำบลอินทร์บุรี อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี เกิดวันที่ ๒๕ เดือน ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๕๒ ( ตรงกับวันเสาร์ ขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือนอ้าย ปีระกาเวลา ๘.๑๕ น. นามบิดา นายเย็น เขียวคง นามมารดา นางบาน เขียวคง มีน้องสาวหนึ่งคนชื่อ น.ส.แสวง เขียวคง อาชีพบิดามารดาทำนา
การศึกษา
พ.ศ. ๒๔๖๑เข้าเรียนที่โรงเรียนวันโพธิ์ศรีและสอบไล่ได้ชั้นประถมปีที่๒เมื่อปีพ.ศ. ๒๔๖๓พ.ศ. ๒๔๖๔เข้าเรียนชั้นประถม๓ที่โรงเรียนวัดบรมนิเวสและสอบไล่ได้ชั้นประถมปีที่๓เมื่อพ.ศ. ๒๔๖๕พ.ศ. ๒๔๖๕เข้าเรียนชั้มัธยมปีที่๑ที่โรงเรียนมัธยมวัดโสมนัสและสอบไล่ได้ชั้นประถมปีที่๓เมื่อพ.ศ. ๒๔๖๖พ.ศ. ๒๔๖๗เข้าเรียนชั้นมัธยมปีที่๔ที่โรงเรียนมัธยมวัดเบจมบพิตรและสอบไล่ได้ชั้นประถมปีที่๔เมื่อพ.ศ. ๒๕๖๗
พ.ศ. ๒๔๖๘เรียนชั้นมัธยมปีที่๕อยู่ครึ่งปีมีเหตุจำเป็นต้องลาออกจากโรงเรียนกลับมาอยู่บ้าน
ชีวิตการทำงาน
พ.ศ. ๒๕๖๗เข้ารับราชการเป็นครูสอนโรงเรียนประชาบาลวัดโพธิ์ศรีอำเภออินทร์บุรีพ.ศ. ๒๔๗๔สอบไล่ได้วิชาประโยคครูพิเศษมูลพ.ศ. ๒๔๘๓ได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็นครูใหญ่โรงเรียนวัดโพธิ์ศรีอำเภออินทร์บุรีพ.ศ. ๒๔๘๓ได้ช่วยเจ้าอาวาสจัดตั้งโรงเรียนราษฎร์ชั้นมัธยมขึ้นที่วัดโพธิ์ศรีชื่อโรงเรียนศรีวินิตวิทยาคมพ.ศ. ๒๔๘๙ลาออกจากครูใหญ่โรงเรียนประชาบาลวัดโพธิ์ศรีอำเภออินทร์บุรีพ.ศ. ๒๔๙๐เป็นครูใหญ่โรงเรียนศรีวินิตวิทยาคมวัดโพธิ์ศรีอำเภออินทร์บุรีพ.ศ. ๒๔๙๒ได้พยายามปรับปรุงกิจการของโรงเรียนจนได้รับยกย่องจากราชการให้โรงเรียนดีได้รับเงินอุดหนุนประจำปีจากรัฐบาลพ.ศ. ๒๔๙๕๒๔๙๒ได้พยายามปรับปรุงกิจการของโรงเรียนจนได้รับรองวิทยฐานะเทียบเท่าโรงเรียนรัฐบาลเป็นโรงเรียนแห่งแรกในจังหวัดสิงห์บุรีพ.ศ. ๒๕๑๒ลาออกจากตำแหน่งครูใหญ่โรงเรียนศรีวินิตวิทยาคมเพื่อพักผ่อน
ชีวิตในครอบครัว
พ.ศ. ๒๔๗๖สมรสนางเนย อ่อนตุ้มมีบุตรรวม๗คนเป็นหญิง
๒คนชาย๕คนคือ๑เป็นหญิงชื่อน.ส. อุดมเขียวคงเรียนจบวุฒิพ.ม. ต่อมาได้ทำการสมรสกับนายพันเอก ลออเกิดศิริ๒เป็นบุตรชายชื่อนายประสงค์เขียวคงเรียนจบโรงเรียนวิศวกรรมรถไฟปัจจุบันทำงานอยู่แผนกซ่อมรถจักรดีเซลโรงซ่อมรถจักรหัวลำโพง๓เป็นชายชื่อนายประสาท เขียวคงเรียนจบวิทยาลัยเทคนิคแผนกช่างกลปัจจุบันทำงานอยู่แผนกซ่อมเรือกรมชลประทาน๔เป็นชายชื่อนายประสพ เขียวคงเรียนจบโรงเรียนการช่างฝีมือทหารปัจจุบันเป็นครูอยู่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์๕เป็นหญิงชื่อน.ส.วารุณีเขียวคงเรียนจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชปัจจุบันเป็นครูสอนอยู่โรงเรียนวัดโบถ์อำเภออินทร์บุรี๖เป็นชายชื่อนายสงัด เขียวคงเรียนจบโรงเรียนไปรษณีย์ปัจจุบันทำงานอยู่กรมไปรษณีย์กลาง๗เป็นชายชื่อนายสงบ เขียวคงเรียนจบปริญญาตรีจากวิทยาลัยครูพระนครศรีอยุธยาปัจจุบันเป็นครูสอนโรงเรียนอำเภอสว่างแดนดินจังหวัดสกลนคร
ชี วิตในเพศสมณะ
พ.ศ. ๒๕๑๒ ได้ทำการบรรพชาอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัโพธ์ศรี ตำบท อินทร์บุรี อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี โดยมีสมเด็จพระญานสังวร (เจริญสุวัฑฒโน) เป็นพระอุปัชฌาย์จารย์ พระราชวราลังการ (บุญธรรม จิณณธัมโม) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูโพธิสารสุธี (บุญมี กิมพิโล) เป็นพระอนุสาสนาจารย์ พ.ศ. ๒๕๑๒ สอบไล่ได้นักธรรมชั้นตรี พ.ศ. ๒๕๑๓สอบไล่ได้นักธรรมชั้นโท พ.ศ. ๒๕๑๔ สอบไล่ได้นักธรรมชั้นเอก พ.ศ. ๒๕๑๕ ได้รับแต่งตั้งให้เป็นครูสอนพระปริยัติธรรมในสำนักเรียนวัดโพธิ์ศรี อำเภออินทร์บุรี พ.ศ. ๒๕๑๘ ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรี อำเภออินทร์บุรี ๒๕๑๙ ได้แต่งตั้งให้เป็นกรรมการคุมสอบธรรมสนามหลวง ๒๕๒๑ ได้รับแต่งเป็นกรรมการตรวจข้อสอบนักธรรมชั้นตรี ในสนามหลวง พ.ศ. ๒๕๒๒ ได้รับการแต่งตั้งดำรงตำแหน่งรองเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรี อำเภออินทร์บุรี พ.ศ. ๒๕๒๓ ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรี อำเภออินทร์บุรี
ตำแหน่งสมณะศักดิ์
พ.ศ. ๒๕๑๔ ได้รับสมณะศักดิ์ตำแหน่งพระครูสังฆรักษ์ฐานานุกรมของพระ
ราชวราลังการ (บุญธรรม จิณณธัมโม) พ.ศ. ๒๕๑๖ ได้รับสมณะศักดิ์ตำแหน่งพระครูปลัดฐานานุกรมของพระเทพกวี (บุญธรรม จิณณธัมโม) พ.ศ. ๒๕๒๒ ได้รับสมณะศักดิ์ตำแหน่งพระครูปลัดกัณยาณวัฒน์ ฐานานุกรมของพระธรรมโสภณ (ฟื้น ปาสาทิโก) พ.ศ. ๒๕๒๖ ได้รับพระราชประทานสมณะศักดิ์พระครูสัญญาบัตร ที่พระครูสิริโพธิโสภณ ตำแหน่งเทียบผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นพิเศษ
ตำแหน่งอื่น ๆ
พ.ศ. ๒๕๓๑ ได้การแต่งตั้งจากคณะกรรมการให้ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการมูลนิธิพระเทพกวีในสมเด็จพระญานสังวรอุปถัมภ์ พ.ศ. ๒๕๓๓ ได้การแต่งตั้งจากคณะกรรมการให้ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการลามูลนิธิ วัดโพธิ์ศรี พ.ศ. ๒๕๓๕ ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้จัดการโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา วัดโพธิ์ศรี
พ.ศ. ๒๕๔๕ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระภาวนาวิสุทธิเถร วิ.
- ท่านพระภาวนาวิสุทธิเถร นับเป็นผู้มีคุณอย่างสูงยิ่งต่อพวกเราชาวโรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดโพธิ์ศรีตลอดมาความวิริยะอุตสาหะของท่านได้สร้างสรรค์โรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดโพธิ์ศรีเป็นปรึกแผ่นมั่นคงมาจนถึงทุกวันนี้
พระครูวินิตสีลคุณ (ลา)
ภูมิลำเนาเดิม
ท่านเกิดปีระกา พ.ศ.2404 เดือน 3 แรม 13 ค่ำ วันพฤหัสบดี เวลา 1 ทุ่มเศษ ณ ตำบลนำตาล หมู่ที่ 13 (บัดนี้เปลี่ยนเป็นตำบลอินทร์ หมู่9)บ้านใต้วัดโพธิ์ศรี อำเภออินทร์บุรี บิดาของท่านชื่อ "โสภา" มารดาชื่อ พันธ์ นามสกุล พันธโสภาค มีพี่น้องร่วมท้องเดียวกัน 5 คน เป็นชาย 3 คน หญิง 2 คน ท่านเป็นบุตรคนที่ 2 แต่พี่น้องของท่านได้ถึงแก่กรรมนานแล้วคงเหลือแต่ท่านเพียงผู้เดียวที่มีอายุยืนจนถึงวัยชรา
การศึกษาเล่าเรียน
เมื่อท่านเจริญวัยได้ 11 ปี บิดามารดาได้นำไปฝากให้เป็นศิษย์วัดอยู่กับพระอาจารย์สุ่ม เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรี ท่านได้เล่าเรียนภาษาไทยจนมีความรู้พอสมควรแก่พื้นภูมิลำเนาและกาลสมัยเมื่ออายุยางเข้า 15 ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณรอยูในวัดโพธิ์ศรี 1 พรรษา ได้ลาสิกขาไปประกอบอาพช่วยบิดามารดาจนอายุครบอุปสมบทก็ได้อุปสมบทที่วัดโพธิ์ศรี พระอุปชณาย์อินทร์ วัดสำโรงเป็นพระอุปชณาย์ พระครูอินทรมุนี (โต) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระสมุห์คุม วัดใหม่สุทธาวาส เป็นพระอนุสาวนาจารย์ เมื่อท่านอุปสมบทแล้ว ไดศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย อุปสมบทได้ 2 พรรษา ก็จำต้องลาสิกขาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ เพราะบิดาไม่มีคนช่วยทำงานบ้านครั้นทานลาสิกขาแล้ว บิดามารดาก็ปรารถนาให้ท่านมีครอบครัวเป็นหลักเป็นฐาน ท่านก็ไม่ยอมตกลง เพราะท่านยังอยากศึกษาต่อ ต่อมาเมื่อพระอาจารย์คม ทะโยประการ ได้เป็นเจ้าอาวาส ทางวัดและทางบ้านไดพร้อมใจกันจัดตั้งการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกบาลีขึ้น ท่านพระครูวินิตเวลานั้นเป็นฆราวาสได้มาฟังสามเณรแปลหนังสือ ท่านเกิดศรัทธานึกอยากออกบวชต่อ อยู่ต่อมาจนอายุย่างเข้า 27 ปี ก็วิงวอนต่อบิดามารดาเพื่ออุปสมบทพอท่านอนุณาตจึงได้ไปอุปสมบทท่วัดพัทธสีมาวัดสำโรง ตำบลอินทร์ อำเภออินทร์ จังหวัดสิงห์บุรี เป็นครั้งที่ 2 เคาะเดียวครับรับประกันตามกฏ เสมอมา....... |
