(0)
เหรียญหลวงพ่อวิชาเสมานั่งเต็มองค์ 5 ไตรมาส ปี2544






รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องเหรียญหลวงพ่อวิชาเสมานั่งเต็มองค์ 5 ไตรมาส ปี2544
รายละเอียดเหรียญหลวงพ่อวิชาเสมานั่งเต็มองค์ 5 ไตรมาส วัดชอนทุเรียน ปี2544

เหรียญสวยเดิมหายาก ลูกศิษย์ท่านใดยังไม่มีเคาะเก็บได้เลยครับ

รับรองความสวย

ประวัติหลวงพ่อวิชา จากคุณdada99999 ขอขอบคุณไว้ด้วยครับ

หลวงพ่อวิชา รติยุตโต เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังภาคกลาง และเป็นศิษย์เอกสืบสายธรรมจากพ่อท่านคล้าย จันทสุวัณโณ วัดจันดี อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช, หลวงพ่อทบ ธัมมปัญโญ วัดช้างเผือก อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ และหลวงพ่อสด ธัมมธโร วัดหนองสะแก อ.หนองขาหย่าง จ.อุทัยธานี ท่านเหล่านี้ล้วนเป็นพระเกจิชื่อดังเรืองนามด้วยกันทั้งสิ้น
หลวงพ่อวิชา ยังเป็นพระนักพัฒนาที่ชาวบ้านทั่วไป ให้ความเลื่อมใสศรัทธาเป็นอย่างยิ่ง ทั้งในวัตรปฏิบัติและปฏิปทา
อัตโนประวัติ เกิดในสกุล สมสุด เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2487 ณ บ้านหมู่ที่ 2 ต.คุ้งสำเภา อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท เป็นบุตรคนสุดท้อง โยมบิดา-มารดา ชื่อนายเจียด และนางเนียม สมสุด ประกอบอาชีพทำนา-ทำไร่
ชีวิตในวัยเยาว์ ได้ศึกษาเล่าเรียนที่โรงเรียนวัดศรีสิทธิการาม อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท จนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 แล้วศึกษาต่อระดับมัธยมศึกษา ที่โรงเรียนสุวรรณนุสรณ์ อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท
จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ไม่ได้ศึกษาต่อ ต้องลาออกมาครอบครัวประกอบอาชีพทำนา-ทำไร่ ที่บ้านชอนทุเรียน ต.พุนกยูง อ.ตากฟ้า จ.นครสวรรค์
การทำงานของท่าน หากมีเครื่องมือการเกษตรชิ้นใดชำรุดเสียหาย ท่านจะซ่อมแซมด้วยการลองผิดลองถูก จนเกิดความชำนาญ
ทั้งนี้ ท่านได้ไปศึกษาวิชาจากพ่อท่านคล้าย จันทสุวัณโณ ณ วัดจันดี อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช
โดยในวันแรก พ่อท่านคล้ายได้ถามว่า มาทำไม นายวิชา ตอบว่า มาขอเรียนวิชาเพื่อสร้างวัด สร้างเสนาสนะและถาวรวัตถุ เพื่อพัฒนาพระพุทธศาสนา เพราะต่อไปจะบวชครับ เพียงเท่านี้ พ่อท่านคล้ายได้เมตตาสอนวิทยาคมต่างๆ ให้ทันที โดยเฉพาะวิชาวาจาสิทธิ์
พ่อท่านคล้ายแนะนำว่า ให้พูดแต่ความจริง ปากก็จะศักดิ์สิทธิ์เอง
นอกจากนี้ พ่อท่านคล้าย ได้แนะเคล็ดลับในการปลุกเสกวัตถุมงคลให้มีพลังเข้มขลังสูงสุด โดยในระหว่างที่ศึกษาวิชา นายวิชาได้อุปัฏฐากพ่อท่านคล้ายไปด้วย กระทั่ง เมื่อได้รับถ่ายทอดวิชาสำคัญตามสมควรแล้ว ได้กราบลาพ่อท่านคล้ายกลับภูมิลำเนา
ขณะอายุได้ 27 ปี เกิดความเบื่อหน่ายทางโลก ท่านได้ตัดสินใจเข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2514 ณ พัทธสีมาวัดศรีมณีวรรณ (วัดใต้) ต.คุ้งสำเภา อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท
โดยมีพระมงคลชัยสิทธิ์ (หลวงพ่อสำราญ กาญจนาโภ) เจ้าอาวาสวัดปากคลองมะขามเฒ่า อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูเจือ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูชอบ วัดหัวหาด เป็นพระอนุสาวนาจารย์
ได้รับฉายาว่า รติยุตโต มีความหมายว่า ผู้ประกอบด้วยความยินดี
หลังจากอุปสมบท ได้พำนักอยู่ที่วัดศรีมณีวรรณ (วัดใต้) มุมานะเพียรศึกษาข้อวัตรปฏิบัติตามพระธรรมวินัย และทรงข้อวัตรเหล่านั้นโดยบริบูรณ์ จากนั้นจึงได้ศึกษาวิทยาคมชั้นสูงเพิ่มเติมกับพระอาจารย์หลายรูป อาทิ หลวงพ่อทบ ธัมมปัญโญ (พระครูวิชิตพัชราจารย์) วัดช้างเผือก อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ เรียนคาถาดับพิษไฟ การทำตะกรุดโทน เป็นต้น สามารถทำให้มีอิทธิคุณเข้มขลังเช่นเดียวกับพระอาจารย์
หลวงพ่อวิชา มีความเคารพในปฏิปทาของหลวงพ่อสด ธัมมธโร วัดหนองสะแก อ.หนองขาหย่าง จ.อุทัยธานี เป็นอย่างยิ่ง ท่านได้ไปขอเรียนวิทยาคมจากหลวงพ่อสด และพำนักอยู่ที่วัดหนองสะแก เป็นเวลา 1 ปี
หลวงพ่อสดได้สอนเรื่องจริยาวัตรของพระ การมีปฏิสันถาร และถ่ายทอดวิทยาคมต่างๆ โดยเฉพาะวิชาการทำกุมารทอง วิชากระสุนคต ที่มีอิทธิคุณด้านเมตตามหานิยม และกันภัย อันเป็นวิชาที่สร้างชื่อเสียงให้แก่หลวงพ่อสด จนโด่งดังไปทุกสารทิศ
ตั้งแต่แรกบวช พ.ศ.2514 หลวงพ่อวิชา ทำหน้าที่รักษาการเจ้าอาวาสวัดศรีมณีวรรณ มาโดยตลอด มีพระภิกษุ-สามเณร ในความปกครองปีละหลายสิบรูป ชาวบ้านให้ความเคารพเลื่อมใสอย่างกว้างขวาง ได้พากุลบุตรมาขอบรรพชา-อุปสมบท ให้อบรมสั่งสอน ซึ่งท่านได้พากเพียรสอนศิษย์ให้ประพฤติตรงตามข้อวัตรปฏิบัติตามพระธรรมวินัย เจริญศีล สมาธิ ปัญญา และให้เรียนพระปริยัติธรรม
ส่วนวิชาแพทย์แผนโบราณ หลวงพ่อวิชาถ่ายทอดให้ศิษย์ตามอุปนิสัยและความสามารถที่พึงได้รับ ท่านจึงได้นำศิษย์ออกจาริกธุดงควัตรตามโอกาสอันควร
นอกจากการอบรมสั่งสอนศิษย์ทางพระธรรมวินัยแล้ว ท่านยังให้การศึกษาโดยเน้นวิชาชีพและคุณธรรม ได้แก่ ช่างเครื่องจักรกล ช่างกลึง ช่างเชื่อม ช่างซ่อมเครื่องยนต์ ช่างไฟฟ้า ตลอดจนด้านการเกษตร เช่น การทำปุ๋ยหมัก การขยายพันธุ์พืชด้วยวิธีการไถ การพรวน การปลูก การดูแลบำรุงรักษา การจัดระบบน้ำและการเก็บเกี่ยว เป็นต้น
หลวงพ่อวิชา ได้พัฒนาวัดศรีมณีวรรณอย่างเป็นรูปธรรม ก่อสร้างเสนาสนะ ถาวรวัตถุจำนวนมาก อันเป็นรากฐานแห่งความมั่นคงของพระพุทธศาสนาไว้เป็นเอนกประการ
หลวงพ่อวิชา ยังได้สร้างวัดต่างๆ มากมาย อาทิ พ.ศ.2519 สร้างวัดห้วยเปล้า ต.ระบำ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี พ.ศ.2521 สร้างวัดคลองหวาย ต.ทองหลาง อ.ห้วยคต จ.อุทัยธานี พ.ศ.2542 พัฒนาวัดชอนทุเรียน ต.พุนกยูง อ.ตากฟ้า จ.นครสวรรค์
หลวงพ่อวิชา รักษาการเจ้าอาวาสวัดศรีมณีวรรณได้ประมาณ 14 ปี แม้ในช่วงนั้นจะมีพระเถระผู้ใหญ่บางรูปและคณะศิษย์สนับสนุนให้เป็นเจ้าอาวาส แต่หลวงพ่อได้ปฏิเสธมาโดยตลอด
ในเวลาต่อมา คณะสงฆ์ได้แต่งตั้งให้หลวงพ่อวิชา ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดศรีมณีวรรณ เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการบริหารกิจการสงฆ์
ด้านวัตถุมงคลของหลวงพ่อวิชา ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง อาทิ กุมารทอง, ตะกรุดโทน และพระขรรค์ปราบมาร เป็นต้น
พ.ศ.2550 เป็นปีมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 80 พรรษา หลวงพ่อวิชา ได้มาพำนักอยู่ที่หมู่บ้านอีซ่า หมู่ 3 ต.ทองหลาง อ.ห้วยคต จ.อุทัยธานี ได้เป็นผู้อุปถัมภ์ในการก่อสร้างเขื่อนอีซ่า เป็นเขื่อนปูนขนาดกว้าง 20 วา ยาว 50 วา และสูง 4 วา 2 ศอก เพื่อผันน้ำช่วยชาวอุทัยธานี และถวายเป็นพระราชกุศล ค่าก่อสร้างประมาณ 10 ล้านบาทเศษ โดยไม่ได้ใช้งบประมาณของทางราชการแต่อย่างใด
หลวงพ่อวิชา นับเป็นพระเกจิอาจารย์และพระนักพัฒนา ที่มีแต่ให้ ไม่เคยหวังผลจากความดีความชอบ หรือการตอบแทนใดๆ ทั้งสิ้น
ท่านได้ปรารภกับศิษยานุศิษย์อยู่เสมอว่า การตอบแทนบุญคุณต่อหลวงพ่อ วิธีที่ดีที่สุด และเป็นสิ่งที่หลวงพ่อต้องการ คือการที่ลูกศิษย์และพุทธศาสนิกชน ประพฤติตนเป็นคนดี มีคุณธรรม เป็นสมาชิกที่ดีของสังคม และประเทศชาติเท่านี้ หลวงพ่อก็ภูมิใจแล้วฆ
ทุกวันนี้ หลวงพ่อวิชา ยังคงมุ่งมั่นทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา สั่งสอนศิษยานุศิษย์ให้มีความเจริญรุ่งเรืองด้วยความรู้คู่กับคุณธรรม

หลวงพ่อวิชาท่านเป็นสหธรรมมิกของหลวงพ่อฤษีลิงดำ ท่านไปนั่งปรกปลุกเสกกับหลวงพ่อลิงดำบ่อยมากๆ และเคยได้เฝ้ารับเสด็จในหลวงในการเสด็จที่วัดท่าซุง ซึ่งท่านได้พาศิษย์ที่เป็นเสือเป็นโจรพาไปเข้าเฝ้าเพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณกลับเนื้อกหลับตัวเป็นคนดีของชาติ และท่านยังได้ถวายพระเครื่องซึ่งเป็นพระสมเด็จเนื้อนิลกาฬ (นิลตะโก) ให้กับในหลวง ซึ่งคนที่ไปฝ้ารับเสด็จในวันนั้นยังบอกเล่าให้ฟังอีกว่าพระทุกรูปที่ไปเฝ้ารับเสด็จนั้นก็ถวายพระเครื่องกับในหลวง แต่ในหลวงรับแล้วส่งต่อให้กับข้าราชบริพาน แต่พอในหลวงรับวัตถุมงคลของหลวงพ่อวิชาท่านเก็บวัตถุมงคลนั้นไว้ในกระเป๋าฉลองพระองค์ ของพระองค์เอง และล่าสุดในปี 2549 ในหลวงได้มีพระกระแสรับสั่งให้นิมนต์หลวงพ่อวิชาไปเข้าฝ้าที่วังไกลกังวลหัวหิน เพื่อให้หลวงพ่อดำเนินการสร้างเขื่ออีซ่า ที่จ.อุทัย ให้แล้วเสร็จ ซึ่ในขณะนี้ท่านได้สร้างเขื่อน เสร็จแล้ว ใช้งบประมาณทั้งหมด 13 ล้านบาทเศษ ซึ่งเป็นเงินที่ได้จากศรัทธาของท่านเอง ไม่เคยใช้เงินของรัฐแม้เต่บาทเดียว ตอนนี้หลวงพ่อได้กลับไปจำพรรษาที่ สำนักปฏิบัติธรรมบ้านชอนทุเรียน อ.ตากฟ้า จ.นครสวรรค์ ซึ่งตอนนี้ท่านได้คิดค้นยาสมุนไพร รักษาโรคได้ดี เช่นโรคไต โรคภูมิแพ้ เบาหวาน ความดัน หัวใจ ใครที่เป็นโรคปะหลาด หมอปัจจุบันรักษาไม่หาย ก็ลองไปหาท่านดู ท่านมีเมตตาสูงมาก
ราคาเปิดประมูล1,300 บาท
ราคาปัจจุบัน1,350 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ50 บาท
วันเปิดประมูล - 27 พ.ย. 2558 - 14:46:57 น.
วันปิดประมูล - 28 พ.ย. 2558 - 16:29:56 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลkasang (564)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     1,350 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     50 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    sjuntawong (377)

 

Copyright ©G-PRA.COM