(0)
@@ รูปหล่อลอยองค์ปู่ฤาษีพรหมสี่หน้า หลวงปู่แวนกาย พนฺธสาโร วัดอำปึล จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา@@@








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่อง@@ รูปหล่อลอยองค์ปู่ฤาษีพรหมสี่หน้า หลวงปู่แวนกาย พนฺธสาโร วัดอำปึล จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา@@@
รายละเอียดรูปแบบสวยใต้ฐานอุดผงได้มาหลายปีแล้วครับ เลี่ยมพลาสติกเรียบร้อยห้อยคอกำลังสวยครับ
เข้มขลังมากครับ สายเขมรโบราณ สหมิตรหลวงปู่ชื่นวัดตาอี
หลวงปู่แวกาย พนฺธสาโร
ผู้สืบสานตำนาน “มหาไสยเวทย์ นครวัด” ดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์แห่งอาณาจักรขอม
หลวงปู่แวนกาย พนฺธสาโร เกิดวันพฤหัสบดีที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2475 ปีจอ ปัจจุบันอายุ 81 ปี 61 พรรษา เป็นชาวกัมพูชาโดยกำเนิด บิดา-มารดา ประกอบอาชีพทำนา บิดาของท่านเป็นอาจารย์ทางไสยเวทย์ที่เก่งท่านหนึ่งในกัมพูชา ด้วยเหตุนี้หลวงปู่แวนกายท่านจึงสนใจในวิชาอาคมต่าง ๆ จากบิดาตั้งแต่วัยเยาว์ทำให้ท่านมีพื้นฐานในวิชาอาคม และด้วยความใฝ่รู้ของท่านจึงได้ถอดอักขระยันต์ประตูนครวัดมาศึกษาจนสำเร็จและเข้าใจ หลวงปู่เรียกยันต์นี้ว่า “ยันต์อาถรรพ์” “ ยันต์แม่กำเนิด” ปัจจุบันแผ่นยันต์นี้ได้ถูกขโมยไป ยันต์อาถรรพ์นี้หลวงปู่ท่านว่าศักดิ์สิทธิ์นัก เพราะเป็นต้นกำเนิดของวิชาอาคมต่าง ๆ
หลวงปู่ท่านสำเร็จวิชาอาคมจากบิดาท่านด้วยวัยเพียง 18 ปี ในปีพ.ศ. 2495 เมื่ออายุครบบวช ได้บวชเรียนและศึกษาพระธรรมที่ วัดอำปึล จังหวัดอุดรมีชัย กัมพูชา ท่านเป็นพระที่มีเมตตาสูง พูดจาไพเราะ ชอบช่วยเหลือคนที่ตกทุกข์ได้ยาก รวมทั้งออกเดินธุดงค์อยู่ในป่าเป็นเวลานานหลายปี

ในการปฏิบัติธรรม ท่านได้ เพิ่มความเพียร โดยการออกธุดงค์ขึ้นไปบนเขากิเลน สถานที่ซึ่งถือเป็นดินแดนอันศักดิ์สิทธ์ การธุดงค์ครั้งนั้นท่านได้พบพระอาจารย์หลายรูปด้วยกัน แต่ละท่านล้วนเก่งกล้าในวิชาอาคม การใช้ชีวิตในถ้ำเขากิเลนนั้นเต็มเป็นไปด้วยความยากลำบาก พระ คณาจารย์หลายท่านต้องจบชีวิตลงจากไข้ป่าที่ชุกชุมหรือสัตว์ป่าที่ดุร้าย รวมทั้งภูตผี ปีศาจ และผู้มีวิชาอาคมด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นพระภิกษุสงฆ์หรือนักสิทธิ์วิทยา ฤาษี นักพรตนุ่งขาวห่มขาว บางส่วนที่มีมิจฉาทิฐิชอบทดสอบวิชาอาคมซึ่งกันและกัน เล่า กันว่าท่านทั้งหลายที่สามารถธุดงค์มายังเขากิเลนได้นั้น จะต้องมีวิชาอาคมพอที่จะรักษาตัวท่านให้รอดปลอดภัยกลับไปได้ พระผู้ปฏิบัติดีหลายท่านที่วิชาอาคมยังไม่แก่หล้าพอต้องมามรณภาพลง ณ เขากิเลน แห่งนี้
ณ เขากิเลนแห่งนี้ พบ “หลวงปู่สรวง” ที่ถ้ำเขากิเลน ชาวบ้านเรียกท่านว่า “หลวงปู่แคลง” หลวงปู่แวนกาย ได้กราบมนัสการท่าน และปวารณาตัวเป็นศิษย์ (ณ เวลาในปัจจุบันหลวงปู่สรวงท่านได้มาเกิดแล้ว ตอนนี้บวชเป็นสามเณร อายุ 17 ปี แต่ไม่ปรากฏตัวว่าอยู่ ณ ที่ใด (นี่คือคำบอกจากหลวงปู่แวนกาย ท่านเห็นในดวงจิต) หลวงปู่แวนกายท่านธุดงค์อยู่ป่าเป็นเวลานับสิบปี เมื่อได้พรรษามากวิชาอาคมของท่านก็แกร่งกล้ามากขึ้นตามลำดับ การธุดงค์ครั้งนี้ทำให้ท่านได้ทั้งธรรมะและวิชาอาคมจนเป็นที่พอใจ

กระทั้งปี พ.ศ. 2509 ท่านได้กลับมาจำพรรษาที่ วัดอำปึล อำเภอโคกมอน จังหวัดอุดรมีชัย ใน ช่วงเวลานั้นบ้านเมืองของท่านอยู่ระหว่างเกิดสงครามกลางเมือง ซึ่งเป็นผลกระทบมาจากสงครามอินโดจีนเป็นการต่อสู้ทางการเมืองระหว่างกลุ่ม สองฝ่าย ประชาชนอดอยากแร้นแค้น สงครามกลับทวีความรุนแรงมากขึ้นอย่างไม่มีทีท่าว่าจะสงบ การกลับมาของหลวงปู่แวนกายจึงเหมือนเป็นความหวังที่พึ่งสุดท้ายของเหล่าทหารและประชาชน ทุกนาทีชีวิตของทุกคนมีแต่อันตรายรอบด้านทั้งที่เป็นบ้านเกิดของตน เป็นที่เล่าขานกันเรื่องเครื่องรางของขลัง ของหลวงปู่แวนกายว่า แคล้วคลาดปลอดภัย อีกวิชาที่ชาวบ้านรวมทั้งทหารยอมรับและนิยมคือ การลงทองพร้อมทั้งการลงอักขระทั้งตัว กล่าวกันว่าผู้ใดที่หลวงปู่ ลงทองให้ไม่มีตายเพราะถูกกระสุนปืนหรือเหยียบกับระเบิดสักคน กระทั้งวัว, ความหรือลูกหลานที่ท่านเป่าหัวให้เหยียบกับระเบิดแต่ไม่ระเบิดสักลูก หรือถูกยิงแต่ไม่เป็นอะไร

ชาวบ้านและทหารล้วนให้ความศรัทธาหลวงปู่แวนกายมาก วัตถุมงคลของหลวงปู่ทุกแบบไม่ว่าจะเป็น ตะกรุด ผ้ายันต์ ต่างได้รับความนิยมจนเป็นที่กล่าวขานกันอย่างกว้างขวางผู้คนต่างเดินทางมากราบขอพรท่านเพื่อขอของดีจากท่านอย่างไม่ขาดสาย
ท่านได้เดินทางมาประเทศไทยและจำพรรษาที่ วัดตาอี จ.บุรีรัมย์ หลวงปู่มีพระสหายอยู่ที่ วัดตาอี คือหลวงปู่ชื่น หลวงปู่แวนกายได้มาจำพรรษาที่ วัดตาอี หลายพรรษาได้ช่วยหาเงินสร้างโบสถ์ วัดตาอี จนแล้วเสร็จ ในปี พ.ศ. 2545 หลวงปู่แวนกายได้มาพักที่วัดช่องลมมหาชัย อยู่ประมาณ 3 เดือน และอีกหลายวัดในประเทศไทย เช่น วัดน้อยนางหงส์ มหาชัย วัดแค สมุทรปราการ กลับวัดตาอี บุรีรัมย์ วัดแจ้ง นนทบุรี วัดรวกบางสีทอง นนทบุรี ทุกครั้งที่หลวงปู่แวนกายเดินทางมาประเทศไทยท่านก็เมตตาช่วยเหลือวัดต่างๆ ที่ท่านไปในการสร้างวัตถุมงคลเพื่อนำปัจจัยมาบูรณะและปฏิสังขรณ์เสนาสนะของวัดที่ท่านไปจำพรรษามาโดยตลอด
หลวงปู่บอกว่า “มนุษย์ ต่างมีกรรมเป็นของตัวมากบ้างน้อยบ้าง ต่างวาระกัน ส่วนใหญ่มาพบท่านเพราะเกิดทุกข์ ให้ท่านช่วยแก้หลวงปู่ท่านทราบดีว่าไม่มีสิ่งใดจะแทนวิบากกรรรมได้แต่เรา สามารถหนีได้ด้วยการหมั่นสร้างกรรมดีให้มากเมื่อกรรมดีมีมากวิบากกรรมก็ตาม ไม่ทันเพราะฉะนั้นการที่เรามีเครื่องรางของขลังหรือพระดีติดตัวช่วยคุ้มครอง แคล้วคลาดก็ควรมีสติเตือนตัวเอง หากเราหยุดสร้างกรรมดีเมื่อไหร่วิบากกรรมตามทันเมื่อนั้น และที่สำคัญคือเกิดเป็นคนให้รู้คุณบิดามารดา ท่านคือพระองค์แรก ควรทำมงคลให้เกิดที่บ้านก่อน แล้วจึงค่อยแสวงหามงคลที่พระ อย่ารอเวลาที่จะทำความดีกับบิดามารดาเมื่อท่านยังมีชีวิตความกตัญญูกตเวทิตาคือสัญลักษณ์ของคนดี”
การปลุกเสกวัตถุมงคลของท่าน จะปลุกเสกอธิฐานจิตเดียวเพื่อความศักดิ์สิทธิ์เข้มขลัง ตลอดไตรมาสพรรษา สำหรับวัตถุมงคลของท่าน พุทธคุณเด่นในด้านเมตตามหานิยม ค้าขายดี เจรจาต่อรองสัมฤทธิผลนักแล ลูกศิษย์ลูกหาทั้งชาวไทยและกัมพูชาต่างมีความต้องการวัตถุมงคลของท่านไว้ บูชาเป็นจำนวนมาก

ปัจจุบัน ท่านได้กลับไปพำนักอยู่ที่วัดอำปีล บ้านเกิดของท่าน ระหว่างนี้ท่านก็ได้เข้ามาประเทศไทยเพื่อเยี่ยมเยือนสหธรรมมิกหลายๆท่านใน ภาคอีสาน ระยะเวลาที่ผ่านมา หลวงปู่ได้อนุญาตให้คณะศิษย์ในเมืองไทยได้จัดสร้างวัตถุมงคลขึ้นหลายรุ่น มากประสบการณ์หลายอย่าง ต่อมาระยะหลังท่านไม่ได้มีโอกาสเข้ามาเมืองไทย จึงไม่ได้จัดสร้างวัตถุมงคล
ราคาเปิดประมูล100 บาท
ราคาปัจจุบัน2,000 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ50 บาท
วันเปิดประมูล - 14 ก.ค. 2559 - 07:22:44 น.
วันปิดประมูล - 15 ก.ค. 2559 - 19:02:33 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลแฟรงค์ตาทิพย์ (2.5K)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     2,000 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     50 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    panjark (44)

 

Copyright ©G-PRA.COM