ขนาดยาว 4.3นิ้ว โต 1เซน
ขนาดยาว 4.3นิ้ว โต 1เซน
ขนาดยาว 4.3นิ้ว โต 1เซน
ประวัติ หลวงพ่อน้อย อินทสาโร วัดธรรมศาลา
หนึ่งในพระเกจิอาจารย์ดังยุคกึ่งพุทธกาลที่เป็นตำนานแห่งเมืองนครปฐมองค์หนึ่งคือ "พระครูภาวนากิตติคุณ" หรือ "หลวงพ่อน้อย อินทสาโร" อดีตเจ้าอาวาสวัดธรรมศาลา อ.เมือง จ.นครปฐม เจ้าตำรับ "เหรียญหน้าเสือ-เหรียญหล่อคอน้ำเต้า" อันลือลั่นด้วยประสบการณ์ความเข้มขลัง สหธรรมิกร่วมยุคสมัยกับหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี, หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม, หลวงปู่เส่ง วัดกัลยาณ์ เป็นต้น
ประวัติ หลวงพ่อน้อย อินทสาโร วัดธรรมศาลา
หนึ่งในพระเกจิอาจารย์ดังยุคกึ่งพุทธกาลที่เป็นตำนานแห่งเมืองนครปฐมองค์หนึ่งคือ "พระครูภาวนากิตติคุณ" หรือ "หลวงพ่อน้อย อินทสาโร" อดีตเจ้าอาวาสวัดธรรมศาลา อ.เมือง จ.นครปฐม เจ้าตำรับ "เหรียญหน้าเสือ-เหรียญหล่อคอน้ำเต้า" อันลือลั่นด้วยประสบการณ์ความเข้มขลัง สหธรรมิกร่วมยุคสมัยกับหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี, หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม, หลวงปู่เส่ง วัดกัลยาณ์ เป็นต้น
"พระครูภาวนากิตติคุณ" หรือ "หลวงพ่อน้อย อินทสาโร" อดีตเจ้าอาวาสวัดธรรมศาลา อ.เมือง จ.นครปฐม อุปนิสัยรักสงบ มีความเคร่งขรึมและสำรวมอยู่เป็นเนืองนิตย์ ไม่ชอบแสดงออกให้ผู้ใดได้ทราบว่า มีดีอย่างไร แต่มีสิ่งที่แสดงออกหลายประการ
เช่น วาจาศักดิ์สิทธิ์จนเป็นที่เลื่องลือ การแผ่เมตตาด้วยสื่อสัมพันธ์ทางกระแสจิตจนทำให้สัตว์ป่าคือ วานรที่มาอาศัยอยู่มีความเชื่องและเข้าใจ ประหนึ่งเป็นศิษย์ที่รู้ภาษาของท่าน รวมทั้ง นก กา ไก่ ที่มาอาศัยอยู่ในวัด ท่านก็ให้ความคุ้มครองสัตว์ทั้งหลายในขอบเขตของวัดจนไม่มีผู้ใดกล้าเข้ามาทำ อันตรายได้
ดังปรากฏมีนักเลงปืนมือฉมังมาลองยิงนกในวัดอยู่เนืองๆ โดยไม่ปรากฏว่าผู้ใดได้นกไปแม้แต่ตัวเดียว ทำเอานักเลงปืนขยาดไปตามๆ กัน ที่สำคัญ ข่าวนี้ได้ร่ำลือออกไปจากลูกศิษย์จนเป็นที่ทราบกันอยู่ทั่วไป จากเหตุการณ์ครั้งนั้นและในระยะหลังบ้าง จึงทำให้ลูกศิษย์ได้เข้าใจหลวงพ่อเกี่ยวกับกฤตยาคมมากขึ้น
นอกจากนี้ ท่านยังมีความมักน้อยยึดสันโดษมีความพอใจต่อสิ่งที่มีอยู่โดยแท้จริง ปราศจากความต้องการและความสุขสบายส่วนตัว
ด้านการปกครองวัดในระยะแรกที่ "หลวงพ่อน้อย" ครองวัดที่ยังมิได้มีโรงเรียนเทศบาล จะมีลานอันร่มรื่นแห่งหนึ่งที่บริเวณหน้าพระอุโบสถหลังเดิม ลานนี้จะมีต้นลั่นทมปลูกอยู่หลายต้น ในฤดูออกดอกจะมีบรรยากาศเต็มไปด้วยความชื่นตาชื่นใจและบริเวณพื้นที่นั้นจะ โล่งเตียนอยู่เป็นเนืองนิตย์ เพราะหลวงพ่อรักษาให้สถานที่มีความสะอาดร่มรื่นสงัดเงียบอันเหมาะกับเป็นที่ ตั้งของพระอารามในพระพุทธศาสนา โดยท่านจะคอยปรามมิให้ผู้ใดมาทำลายความร่มรื่นดังกล่าว
ในสมัยที่ หลวงพ่อท่านยังมีความแข็งแรงโดยมิต้องมีผู้พยุงเดินนั้น ท่านจะแสดงพระธรรมเทศนาอยู่เป็นประจำเพื่อสั่งสอนอุบาสกอุบาสิกา ให้ประพฤติแต่คุณงามความดี และในฤดูกาลเข้าพรรษา ท่านจะเปิดโอกาสให้พระบวชใหม่ (นวกะ) ได้ถามปัญหาธรรมต่างๆ ที่ข้องใจ แต่ส่วนใหญ่ท่านจะใช้วิธีใกล้ชิด เพื่อให้พระนวกะเกิดความเกรงใจไม่ประพฤติปฏิบัติในหนทางที่ไม่บังควรต่อสม ณเพศ เช่น ในเวลาฉันจังหันท่านก็นิมนต์พระนวกะมาฉันใกล้ๆ โดยท่านจะนั่งนิ่งพิจารณาเป็นครู่ใหญ่ เมื่อเวลาฉันก็จะเฉลี่ยโดยทั่วถึงอันสร้างความอิ่มอกอิ่มใจให้กับญาติโยมที่ นำของมาถวายเป็นอย่างยิ่ง
ที่ผ่านมาใครก็ตามที่มาพบ ท่านมักสอนธรรมะเสมอ โดยมักจะเตือนสติไม่ให้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท หมั่นประกอบแต่กรรมดี นอกจากนี้ ท่านยังสั่งสอนเยาวชนที่เข้าศึกษาในโรงเรียนประชาบาลของวัดธรรมศาลา ด้วยการแสดงพระธรรมเทศนาเป็นประจำทุกวันโกน เพื่อต้องการให้เยาวชนมีความประ พฤติและความเพียรพยายาม ในการศึกษาเล่าเรียนเพื่อความเจริญในทางจิตใจ และก้าว หน้าในบวรพระพุทธศาสนา ด้วยความดีพร้อมในศีลจริยาวัตรทั้งมวลของหลวงพ่อ จึงได้สร้างความเคารพยำเกรง ให้กับบุคคลทั่วไป
"หลวงพ่อน้อย" มีคุณวิเศษหลายประการ โดยเฉพาะเกี่ยวกับวิชาการฝังลูกนิมิต การเสกทรายและการลงไม้หลักมงคลซึ่งใช้สำหรับการประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์นั้น ท่านมีชื่อเสียงโด่งดังมาก จนปรากฏว่าสังฆเสนาสนะทั้งหลาย ที่ท่านได้สร้างไว้ ล้วนมีความศักดิ์สิทธิ์เป็นที่น่าอัศจรรย์ ดังมีเรื่องเล่าขานว่า โจรใจบาปหยาบช้าที่เข้ามาโจรกรรมสิ่งของมีค่าภายในปูชนียสถานวัตถุเหล่านั้น ไม่อาจเล็ดลอดออกไปได้ ถึงออกไปแล้วก็ต้องกลับมาให้จับจนได้
ในงานพุทธาภิเษกต่างๆ "หลวงพ่อน้อย อินทสาโร" อดีตเจ้าอาวาสวัดธรรมศาลา อ.เมือง จ.นครปฐม มักจะได้รับนิมนต์ให้ร่วมปลุกเสกด้วยแทบทุกครั้ง โดยช่วงเบื้องปลายชีวิตท่านได้รับนิมนต์ไปร่วมในพิธีพุทธาภิเษก ณ ที่อื่นๆ อยู่เนืองๆ เช่น เมื่อปีพ.ศ.2500 ได้เข้าร่วมชุมนุมพระอาจารย์ 1,782 รูปในพิธีพุทธาภิเษกสร้างพระสมเด็จและรูปสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) เป็นอนุสรณ์กึ่งพุทธกาล
มีบันทึกประวัติในหนังสือชุมนุมพระอาจารย์ ความสำคัญมีว่า "พระอาจารย์น้อย อินทสโร อายุ 77 ปี พรรษา 57 เจ้าอาวาสวัดธรรมศาลา ตำบลธรรมศาลา ลงทางมหาอุตม์ กันกระทำ มหานิยม คลอดบุตรง่าย-ปลอด ภัย กันภยันตรายต่างๆ เลี้ยงบุตรง่าย ก็เด็กขี้อ่อน กันแท้งลูก ใส่ก้นถุง-มีเงินใช้ไม่ขาด มีอำนาจ"
ทั้งนี้ วัตถุมงคลยอดนิยมของท่าน มีอาทิ เหรียญรุ่นแรกทรงเสมา ด้านหน้าเป็นรูปหลวงพ่อครึ่งองค์ มีอักษรตัวนูนคำว่า หลวงพ่อน้อย ด้านหลังเป็นยันต์นะปถมัง, เหรียญหล่อหน้าเสือ รุ่นแรก สร้างประมาณปีพ.ศ.2497-2498 ส่วนครั้งที่ 2 และ 3 ด้านหลังใต้ยันต์ปลายเหรียญมีเลขไทยปรากฏอยู่ ความคมชัดจะไม่เหมือนกัน, เหรียญหล่อคอน้ำเต้า สร้างปีพ.ศ. 2497-2498 มีหลายรุ่นหลายเนื้อเช่นกันกับเหรียญหล่อหน้าเสือ นอกจากนี้แล้วยังมีอีกหลายชนิด คือ รูปหล่อ พระพิมพ์สมเด็จ พระยอดธง พระปิดตา และเครื่องรางอื่นๆ
วาระสุดท้ายของหลวงพ่อน้อยท่านถึง กาลมรณภาพด้วยโรคชรา เมื่อวันอังคารที่ 17 พ.ย.2513 เวลาประมาณ 18.34 น. สิริอายุได้ 83 ปี พรรษา 67 บรรดาศิษยานุศิษย์ต่างร่วมมือกันเป็นเจ้าภาพ สวดพระอภิธรรมถวายทุกคืนจนครบ 100 วัน ปรากฏว่าสังขารของท่านไม่เน่าเปื่อย
ต่อมาปีพ.ศ.2516 ทางวัดได้สร้างวิหารจตุรมุขเป็นที่ประดิษฐานสังขารของท่าน เพื่อให้ศิษยานุศิษย์และผู้เคารพนับถือได้สักการบูชามาจวบจนทุกวันนี้ |
|