ชื่อพระเครื่อง | **พระนางพญาเสน์ห์จันทร์** กรุเถรขึงหนัง จ.สุโขทัย เลี่ยมทองพร้อมใช้ มาพร้อมบัตรรับรองเพื่อนบ้าน |
รายละเอียด | **พระนางพญาเสน์ห์จันทร์** กรุเถรขึงหนัง จ.สุโขทัย เลี่ยมทองพร้อมใช้ มาพร้อมบัตรรับรองเพื่อนบ้าน **เคยส่งออกบัตร G-Pra แล้วครับแต่ไม่ออกผลครับ ขอบคุณครับ
**รายการนี้ไม่มีหน้าม้าหน้าแมว พิจารณาให้ชอบจะได้ไม่เสียเวลาทั้งสองฝ่ายครับ** ได้เท่าไหร่เท่านั้นครับ
***พระนางพญาเสน่ห์จันทน์ ได้ถูกขุดพบโดยบังเอิญ เนื่องจากกรมศิลปากรได้ขุดแต่ง บูรณะโบราณสถานในจังหวัดสุโขทัย ตั้งแต่ปีพ.ศ.2496 เรื่อยมา จนถึงปลายปี พ.ศ.2502 เมื่อขุดแต่งบริเวณฐานขององค์พระเจดีย์ วัดต้นจันทน์หรือวัดราวต้นจันทน์ ก็พบพระเครื่อง นางพญาเสน่ห์จันทน์ และพบอีกที่วัดตาเถรขึงหนัง หรือวัดศรีพิจิตรกิรติกัลยาราม ซึ่งทั้ง 2 วัดมีอาณาเขตติดต่อกัน
ทั้ง 2 วัดนี้เป็นวัดที่สร้างขึ้นในสมัยกรุงสุโขทัย ก่อนที่จะมีการพบพระนางพญาเสน่ห์จันทน์นั้น ในปี พ.ศ.2499 ทางกรมศิลปากรก็ได้ขุดพบหลักศิลาจารึกหลักหนึ่งฝังจมดินอยู่บริเวณวัดตาเถรขึงหนัง ศิลาจารึกหลักนี้เป็นหินชนวนสีเขียวชำรุดหักครึ่ง โดยเหลือแต่เพียงท่อนบนเท่านั้น
ส่วนท่อนล่างหาไม่พบ จารึกเป็นภาษามคธและภาษาไทย ข้อความที่ศิลาจารึกพอแปลความสรุปได้ว่า วัดนี้ในสมัยสุโขทัย มีนามว่า "วัดศรีพิจิตรกิรติกัลยาราม" สร้างเมื่อพ.ศ.1943 ตรงกับสมัยพระมหาธรรมราชาที่ 3 (ไสยลือไทย) และพระราชชนนีศรีธรรมราชมารดา เป็นผู้สร้างวัดนี้ขึ้น โดยโปรดให้ไปอาราธนาสมเด็จพระมหาศรีกิรติ ซึ่งเป็นพระสังฆราชมาจากเมืองกำแพงเพชรเพื่อเป็นประธานในการสร้าง พระอาวาสอาสน์อันดีมีชื่อ "ศรีพิจิตรกิรติกัลยาราม" ตามนามพระสังฆราชพระองค์นั้น
การขุดพบพระนางพญาเสน่ห์จันทน์ในครั้งนั้นพบที่วัดต้นจันทน์ก่อน ขณะที่ทางการขุดลงไปในองค์พระเจดีย์และเปิดกรุที่บรรจุพระเครื่อง ต่างก็พากันตะลึงงัน เนื่องจากคนที่ลงไปในกรุเล่าว่า รู้สึกเหมือนตกอยู่ในภวังค์ รู้สึกชุ่มชื่นอย่างประหลาด เพราะภายในกรุกรุ่นไปด้วยกลิ่นแป้งร่ำกระแจะจันทน์ จึงอาจสันนิษฐานว่าสมัยนั้นเมื่อสร้างเสร็จและนำมาบรรจุกรุ พระนางพญาเสน่ห์จันทน์คงถูกประพรมด้วยของหอมนานาชนิดไว้อย่างมากมาย เหตุนี้จึงมีกลิ่นหอมอบอวลดังกล่าว คงจะมาจากเรื่องราวของการเปิดกรุที่มีกลิ่นหอมทางการจึงตั้งชื่อว่านางพญาเสน่ห์จันทน์ ต่อมามีการเปิดกรุเจดีย์ของวัดตาเถรขึงหนังอีก ต่อมาก็ยังพบพระนางพญาเสน่ห์จันทน์บรรจุอยู่ในกรุนี้ด้วยปะปนกับพระเครื่องชนิดอื่นๆ มากมาย ภายในกรุแบ่งออกเป็นห้องๆ มี 8 ห้อง มีพระเครื่องนางพญาเสน่ห์จันทน์เป็นพื้น
พระนางพญาเสน่ห์จันทน์ของทั้งสองกรุนั้นมีพุทธลักษณะคล้ายกันมาก ที่สังเกตง่ายๆ ก็คือของกรุวัดต้นจันทน์จะมีเส้นคล้ายเส้นจีวร อยู่ที่ใต้แขนด้านซ้ายมือขององค์พระ ยาวตั้งแต่ข้อมือซ้ายยาวขนานกับท่อนแขนเลยข้อศอกซ้ายเล็กน้อย ส่วนพระของกรุวัดตาเถรขึงหนังจะไม่มีเส้นนี้ พระ นางพญาเสน่ห์จันทน์ที่พบจะเป็นพระเนื้อดินเผา เนื้อละเอียดแต่ตัวเนื้อจะไม่ค่อยแน่นสักเท่าไร พระทั้งสองกรุจะปรากฏคราบกรุเป็นฝ้าบางๆ สีนวลจับอยู่เกือบทั้งองค์พระ โดยเฉพาะตามซอกแขน คราบกรุนี้จะจับฝังแน่นกับผิวของพระ
ในปี พ.ศ.2503 ทางกรมศิลปากรได้นำพระนางพญาเสน่ห์จันทน์มาให้ประชาชนเช่าบูชา เนื่องจากพระที่พบมีจำนวนมากทั้งสองกรุ และเพื่อนำเงินไปเป็นปัจจัยในการบูรณะโบราณสถานต่อไป ในครั้งแรกสนนราคาที่ทางการเปิดให้นั้นราคาองค์ละ 30-40 บาท เท่านั้น ก็มีประชาชนไปเช่าบูชากันมากจนพระเริ่มเหลือน้อยลง จนในปี พ.ศ.2509 ราคาเช่าอยู่ที่ 400-500 บาท เมื่อพระหมดไปจากกรม ราคาก็ขยับสูงขึ้นตามลำดับ พระนางพญาเสน่ห์จันทน์ ของทั้งสองกรุได้รับความนิยมทั้งสองกรุ แต่ด้วยจำนวนของวัดตาเถรขึงหนัง มีมากกว่า จึงทำให้คนรู้จักกันมากกว่า จึงได้รับความนิยมสูงกว่าเล็กน้อย
เนื่องจากได้รับความนิยมจากผู้ที่ได้บูชาไป กล่าวว่ามีพุทธคุณเด่นทางด้านเมตตามหานิยม แคล้วคลาด และด้วยพุทธศิลปะสุโขทัยบริสุทธิ์และงดงาม อีกทั้งพุทธคุณที่ปรากฏ จึงทำให้พระนางพญาเสน่ห์จันทน์หาได้ยากแล้วในปัจจุบัน สนนราคาค่อนข้างสูง และของปลอมเลียนแบบก็มีมากตามมาเช่นกันครับ |
ราคาเปิดประมูล | 100 บาท |
ราคาปัจจุบัน | 2,200 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!) |
เพิ่มขึ้นครั้งละ | 100 บาท |
วันเปิดประมูล | - 06 ม.ค. 2561 - 19:59:15 น. |
วันปิดประมูล | - 07 ม.ค. 2561 - 20:06:56 น. (ปิดประมูลแล้ว) |
ผู้ตั้งประมูล | phatcharoen (734)
|