(0)
เคาะเดียว/หนุมานเหนือเมฆ รุ่น สำเร็จ สัมฤทธิ์ผล...หลวงพ่อสนองชาติ วัดเย็นสนิททาราม จ.กาญจนบุรี....เนื้อกินบ่เซี่ยง(กินไม่หมด แจกกรรมการ) สร้างเเค่ 999 ตน เลข 139 พร้องกล่องเดิมๆครับ








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องเคาะเดียว/หนุมานเหนือเมฆ รุ่น สำเร็จ สัมฤทธิ์ผล...หลวงพ่อสนองชาติ วัดเย็นสนิททาราม จ.กาญจนบุรี....เนื้อกินบ่เซี่ยง(กินไม่หมด แจกกรรมการ) สร้างเเค่ 999 ตน เลข 139 พร้องกล่องเดิมๆครับ
รายละเอียดพระครูสุภัทรกาญจนกิจ (หลวงพ่อนองชาติ ฐิตจิตฺโต) เดิมท่านเป็นคนกรุงเก่าพระนครศรีอยุธยา โยมบิดาชื่อชูศักดิ์ เศียรประภัสสร ปลัดคนแรกของเทศบาลตำบลท่าเรือ โยมมารดาเป็นข้าราชการครูชื่อสำอางค์ เศียรประภัสสร ท่านเกิดเมื่อวันที่ ๑๔ สิงหาคม ๒๔๘๓ ตรงกับวันพุธ ขึ้น๑๑ค่ำ เดือน๙ ปีมะโรง ในวัยเยาว์โยมแม่และโยมยายได้นำท่านไปฝากตัวเป็นบุตรบุญธรรมของพระครูเนกขัมมวิสุทธิคุณ(หลวงพ่อฮวด) เจ้าอาวาสวัดไม้รวกและเจ้าคณะตำบลท่าเรือในขณะนั้น และหลวงพ่อฮวดนี้เองที่ได้ตั้งชื่อให้ท่านใหม่ว่า “สนองชาติ”การศึกษาทางโลกท่านได้เข้าเรียนชั้นประถมศึกษาที่โรงเรียนหนองแห้ว และในระดับมัธยมต้นที่โรงเรียนนิตยานุกูล จากนั้นโยมบิดาของท่านได้ส่งให้ไปเรียนต่อที่โรงเรียนอำนวนศิลป์ในพระนคร

ระหว่างเรียนที่โรงเรียนนิตยานุกูล นี้เองท่านได้เป็นศิษย์วัดอยู่ที่วัดแค ซึ่งมีพระปลัดบุญรอด(หลวงพ่อรอด) เป็นเจ้าอาวาส พระปลัดบุญรอดท่านเป็นพระธุดงค์ชาวเขมร ผู้ทรงวิทยาคมมีความชำนาญทั้งด้านปริยัติและปฏิบัติ มีความเชี่ยวชาญในอักขระเลขยันต์ และเวทย์มนต์ต่างๆ หลวงพ่อสนองชาติท่านมีความสนใจใคร่รู้ในเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างมากจึงนับเป็นโอกาศทองของท่าน หลวงพ่อสนองชาติได้ศึกษาสรรพวิชาต่างๆ จากหลวงพ่อรอดและพระธุดงค์ที่แวะมาพำนักที่วัดอยู่เป็นประจำควบคู่กับการเรียนทางโลก หลังจากเรียนจบจากพระนครท่านได้กลับไปทำงานช่วยเหลือครอบครัวที่บ้านเกิดของท่าน ต่อมาท่านได้มาบวชเป็นสามเณรที่วัดไม้รวกโดยมีหลวงพ่อฮวดเป็นผู้บรรพชาให้และครั้งนี้ท่านได้ศึกษาหาความรู้ในวิชาต่างๆอย่างจริงจัง ที่สำนักใดที่ว่ามีวิชาเก่งกล้า หลวงพ่อท่านก็จะเข้าไปกราบพร้อมเครื่องบูชาครูขอเป็นศิษย์เพื่อศึกษาวิชา ด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตนและความวิริยะอุตสาหะของท่านและประกอบกับความรู้เรื่องอักขระเลขยันต์และภาษาขอมโบราณเป็นอย่างดีทำให้ท่านสามารถไปขอศึกษาสรรพวิชาโบราณอีกหลายแขนงจากตำราสมุดข่อยของสำนักต่างๆ ในพระนครศรีอยุธยา ท่านตั้งใจศึกษาและทดลองปฏิบัติจริงจนเห็นผลทั้งวิชาคงกะพันชาตรี วิชาทางเมตตามหานิยม มหาลาภ คุ้มครองป้องกันและแคล้วคลาด วิชาทำตะกรุดและลงผ้ายันต์ วิชาการสร้างหนุมาน วิชาแก้ไสยศาสตร์มนต์ดำ และวิชาแพทย์แผนโบราณ ในขณะนั้นท่านเป็นพระหนุ่มที่พูดน้อยแต่มีจิตแน่วแน่ ทำอะไรจริงจังและมีความมั่นใจในตนเองสูงมาก และได้ศึกษาวิชาต่างๆ จากตำราโบราณจากหลายสำนักด้วยตนเอง จึงมีผู้ที่ห่วงใยในตัวท่านแนะนำว่าต้องแสวงหาครูบาอาจารย์มาควบคุมเพื่อไม่ให้ผิดครูซึ่งอาจส่งผลให้เสียสติได้ และเมื่อโอกาศมาถึงท่านได้ฝากตัวเป็นศิษย์และเข้าพิธีครอบครูกับหลวงพ่อเงินแห่งวัดดอนยายหอม และหลวงพ่อสนองชาติได้ขอคำแนะนำหลายอย่างที่ท่านกำลังติดขัดอยู่ หลวงพ่อเงินท่านก็เมตตาชี้แนะให้จนเข้าใจกระจ่างแจ้งทุกอย่าง และให้คำสอนที่หลวงพ่อสนองชาติท่านจดจำมาถึงทุกวันนี้ว่า “ถ้าจะทำของอะไร ต้องทำให้ดีที่สุดเสกจนมั่นใจแล้วจึงค่อยแจกจ่ายให้คนเอาไปใช้ เพราะคนที่ศรัทธาเอาของเราไปใช้เท่ากับเขาฝากชีวิตไว้กับเรา” และต่อมาท่านยังได้ไปศึกษาวิชาปฏิบัติกรรมฐานจากสำนักหลวงพ่อตาบวัดมะขามเรียง จากนั้นท่านจึงกลับมาพำนัก ณ วัดไม้รวก ญาติโยมนิมนต์ท่านให้เป็นเจ้าอาวาสสืบต่อจากอาจารย์ของท่านแต่ท่านปฏิเสธ ตัวท่านเองนั้นต้องการความสงบแต่เมื่อมีคนเดือดร้อนมาขอท่านก็ช่วยไปตามที่ทำได้จนเป็นที่ศรัทธามากมายจากผู้คนทั้งใกล้และไกล ถึงขนาดมาคอยที่วัดไม้รวกตั้งแต่ตีห้า หรือเช่ารถบัสมาจากที่ไกลๆก็มี และขอให้ท่านเสกวัตถุมงคลจำพวกรูปถ่ายของท่านซึ่งก็มีประสบการณ์มากมาย ต่อมาเมื่อมีคนมาหากันมากขึ้นเรื่อยๆ จึงทำให้มีเกิดความไม่เข้าใจกันกับเจ้าอาวาสองค์ใหม่ของวัดไม้รวกซึ่งเป็นพระมาจากที่อื่น และตรองดูแล้วว่าแม้ย้ายไปวัดอื่นนานไปเกรงจะเกิดปัญหาขึ้นอีก ท่านจึงตัดสินใจลาสิกขาบทเพื่อแสวงหาความสงบประพฤติตนเป็นเพียงผู้ปฏิบัติธรรม เดินทางไปปฏิบัติธรรมตามถ้ำและป่าลึกในที่ต่างๆ ระหว่างนั้นแม้ท่านจะมิได้อยู่ในเพศบรรพชิตแล้วก็ตามแต่ก็ยังมีลูกศิษย์ที่เคารพศรัทธาอยู่ไม่น้อย และมีคนตามไปขอคำชี้แนะทั้งทางโลกและทางธรรมอยู่เสมอไม่ว่าท่านจะอยู่ ณ ที่ใดก็ตาม จนเมื่อพ.ศ. ๒๕๒๒ ท่านได้ตัดสินใจเข้าอุปสมบทใหม่ ณ วัดทองบน กรุงเทพมหานคร ตามคำขอของคณะศิษย์เพื่อจะได้สั่งสอนและช่วยเหลือคนในหมู่มากให้พ้นทุกข์ โดยมีพระครูจันทรโอภาสเป็นพระอุปัชฌาย์ จากนั้นท่านได้กราบลาท่านเจ้าอาวาสวัดทองบนตั้งใจออกเดินทางเพื่อแสวงหาสถานที่สงบร่มเย็นเหมาะแก่การปฏิบัติธรรมและพัฒนาให้เป็นวัดต่อไป จนที่สุดคณะศิษย์ซึ่งประกอบด้วยพันตรีพิชิต กรานเลิศ (ยศในขณะนั้น) พันโทอำนาจ ชยมานนท์ (ยศในขณะนั้น) และพันโทพีระ ลีละสิริ(ยศในขณะนั้น) ซึ่งเป็นทหารอยู่ในกองพลทหารราบที่๙ กาญจนบุรี ได้นิมนต์ท่านมา ณ วัดร้างที่บ้านจันอุย ตำบลลาดหญ้า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี หลังจากท่านเข้ามาสำรวจและ พิจารณาเห็นว่าเหมาะควรแล้ว ท่านจึงเริ่มเข้ามาสร้างกุฏิหลังเล็กๆเพื่อปฏิบัติธรรมและได้พัฒนาต่อมาเป็นวัดเย็นสนิทธรรมารามในปัจจุบัน นอกจากนั้นท่านยังเป็นอาจารย์สอนวิปัสนากรรมฐาน และอาจารย์สอนครูปริยัติธรรมของกระทรวงศึกษาธิการ หลวงพ่อสนองชาติท่านเป็นพระที่รักความสงบ พูดน้อย และมีเมตตาสูงมาก ใครไปหาท่านขอให้ท่านช่วยหากช่วยได้ท่านก็ช่วยทุกคนโดยเสมอกันไม่เลือกชั้นวรรณะจึงทำให้ท่านมีลูกศิษย์มากมายตั้งแต่นายพล หมอ ข้าราชการ เกษตรกรไปจนถึงคนหาเช้ากินค่ำ ในทางปกครองท่านได้รับการเลื่อนสมณศักดิ์มาโดยลำดับ และได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ที่ พระครูสุภัทรกาญจนกิจ ในพ.ศ. ๒๕๓๙ และได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะตำบลลาดหญ้า เมื่อพ.ศ.๒๕๔๘ สำหรับวัตถุมงคลของท่านนั้น ท่านพิถีพิถันในการสร้างมากทั้งมวลสาร การบวงสรวงครูบาอาจาย์และการอธิษฐานจิต อนุญาตให้สร้างครั้งละไม่มากและที่สำคัญต้องมีเหตุอันสมควรเหมาะสม เช่นงานไหว้ครูประจำปีที่ท่านจะจัดทุกปีในวันอาทิตย์แรกของเดือนสิงหาคมที่วัดเย็นสนิทธรรมาราม หลวงพ่อสนองชาติท่านเริ่มสร้างพระปิดตาเนื้อดินผสมผงหลังยันต์ตัวพอ ประมาณพ.ศ. ๒๕๒๕ ซึ่งมีประสบการณ์เป็นที่ประจักษ์มากมาย ลูกศิษย์ท่านที่ทำสวนยางอยู่ทางใต้ถูกยิงด้วยอาวุธสงครามหลายนัด แต่พบเพียงรอยซ้ำแดงๆ ตามผิวหนัง และปลอกกระสุนจำนวนมากในที่เกิดเหตุ ปัจจุบันเช่าหากันด้วยค่านิยมที่ไม่น้อย และจากประสบการณ์บอกต่อๆกันเรื่องแคล้วคลาดจากอุบัติเหตุทางถนนทำให้มีคนนำรถไปให้ท่านเจิมเป็นจำนวนมากจากทั่วสารทิศ ท่านจึงเริ่มสร้างสติกเกอร์ยันต์ติดรถตั้งแต่พ.ศ. ๒๕๒๖ ต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน และในปี ๒๕๓๖ ทางวัดมีการจัดงานปิดทองฝังลูกนิมิตฉลองพระอุโบสถ ท่านได้สร้างวัตถุมงคลเนื้อดินผสมผงมวลสารศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาหลายพิมพ์ด้วยกันเช่น พิมพ์พระสมเด็จ พระเจ้าสัวเศรษฐี และพระปิดตา ผู้ที่นำไปใช้ต่างมีประสบการณ์ดีๆ กันมากมายทั้งเมตตา มหาลาภ การค้าการขาย คุ้มครองและแคล้วคลาด และเริ่มหายากขึ้นในปัจจุบัน…. ส่วนเหรียญรูปเหมือนหลวงพ่อสนองชาติท่านตั้งใจให้สร้างเพียง ๙ รุ่น โดยเหรียญรุ่นแรก สร้างในปี ๒๕๓๙ (เหรียญรูปหยดน้ำ สร้างเนื้อทองคำ ๓๙ เนื้อเงิน ๕๓๙ และเนื้อทองแดง ๒๕๓๙ เหรียญ) คณะศิษย์สร้างถวายในคราวฉลองสมณศักดิ์ของหลวงพ่อ ปัจจุบันก็เป็นที่นิยมเช่าหากันมากและดังไกลไปถึงต่างประเทศ ล่าสุดเหรียญรุ่นแรกเนื้อทองคำมีการเปลี่ยนมือไปในราคาหลายๆแสนบาท … นายทหารที่เคยมารับราชการที่ค่ายสุรสีห์ กาญจนบุรีและให้ความเคารพศรัทธาในหลวงพ่อก็มีไม่น้อย เหรียญรุ่น ๒ สร้างในปี ๒๕๔๒ (เหรียญรูปไข่ สร้างเนื้อเงิน ๙ เนื้อตะกั่ว ๙ และเนื้อทองแดง ๕ooo เหรียญ) โดยพล.อ.พิศาล บัวสรวง(อดีต รองผบ.สส.) สร้างถวาย…เหรียญรุ่น๓ (เหรียญสี่เหลี่ยม เนื้อทองคำ ๓ เนื้อเงิน ๓๓ เนื้อนวโลหะ ๓๓ เนื้อตะกั่ว ๓๓ และเนื้อทองแดง ๑o,ooo เหรียญ) และหลังจากนั้นมาก็ยังไม่ได้สร้างเหรียญเนื้อทองคำอีกเลย… จุดมุ่งหมายหลักในการสร้างวัตถุมงคลของท่านคือสอนให้คนระลึกถึงคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และสอนให้คนรู้จักคำว่า พอ เป็นเครื่องเตือนสติ พอดี พอได้ ก็ละได้ ดังยันต์ตัวพอที่ท่านใช้เป็นเอกลักษณ์ในวัตถุมงคลทุกรุ่น และที่สำคัญอีกสิ่งหนึ่งที่โดดเด่นสำหรับวัตถุมงคลของหลวงพ่อสนองชาติ คือ วัตถุมงคลของท่านสมารถใช้ถอนของ ถอนไสยศาสตร์มนต์ดำต่างๆ โดยสามารถไปสอบถามวิธีที่ถูกต้องได้ที่วัดเย็นสนิทธรรมาราม กาญจนบุรี
+
+
+พุทธศิลป์และคติธรรมที่หลวงพ่อสนองชาติสอนไว้ในองค์ หนุมานเหนือเมฆ

ทรงคุณค่างานพุทธศิลป์ที่งดงามโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ เข้มขลัง ทรงพลานุภาพ แต่เปี่ยมด้วยเมตตาอย่างน่าอัศจรรย์ แฝงด้วยคติธรรมนำพาชีวิตสู่ความสำเร็จ อยู่เหนือชนทั้งปวง

หนุมานทรงฤทธิ์อยู่เหนือเมฆ แสดงถึงความพร้อม การมีสติ เป็นผู้รู้ตลอดเวลา รู้แจ้งตามหลักแห่งผู้รู้ธรรม หลวงพ่อท่านว่าการมีสติรู้แจ้งเกิดได้ด้วยการเจริญวิปัสสนากรรมฐานจนเป็นปกติวิสัย

รูปร่างงามสมส่วนสมบูรณ์เปี่ยมด้วยพลัง แสดงถึงความสมบูรณ์ แข็งแรง มีพละกำลัง สติปัญญา และความสามารถ อาสาทำงานให้บรรลุผลสำเร็จสมประสงค์

มือขวาทรงตรีเพชรไว้ที่หน้าอก แสดงถึงการระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย คุณครูบาอาจารย์ และคุณบิดามารดาเป็นที่สุดเพื่อนำพาชีวิตสู่ความเจริญรุ่งเรือง โดยนิ้วทั้ง๔ ลักษณะกำเข้าหาตน แสดงถึง อิทธิบาท๔ หนทางสู่ความสำเร็จ ๔ ประการอันได้แก่ ฉันทะ(ความพอใจ) วิริยะ(ความเพียร) จิตตะ(ความคิดดี) วิมังสา(ความไต่ตรองรอบครอบ)

มือซ้ายทรงพระขรรค์และนิ้วชี้ไปข้างหน้า แสดงถึง ความมุ่งมั่น มั่งคง และมีจิตที่เป็นหนึ่ง มีปัญญาที่แหลมคมเป็นอาวุธเพื่อขจัดอุปสรรคต่างๆ โดยมีนิ้ว ๓ นิ้วกำเข้าหาตน แสดงถึง หลักปฏิบัติ ๓ ขั้นตอนเพื่อพัฒนาตนสู่ความสำเร็จในธรรมตามวิธีที่หลวงพ่อสนองชาติถือปฏิบัติตลอดมาประกอบด้วย ศึกษาหาความรู้ที่ถูกต้อง นำความรู้สู่การปฏิบัติ และประเมินผลหาหนทางสู่ความสำเร็จที่แท้จริง

เท้าขวาก้าวไปข้างหน้าหงายฝ่าเท้าตั้งตรง แสดงถึง การจะก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง และเป็นที่สรรเสริญแก่ชนทุกหมู่เหล่า ตนเองต้องครองตนให้ตั้งอยู่ในคุณธรรม มีความซื่อสัตย์สุจริต รักษาสัตย์ อ่อนน้อมถ่อมตน และมั่นคงเสมอต้นเสมอปลายเป็นพื้นฐาน

เท้าซ้ายอยู่ด้านหลังและยกขึ้นอยู่ด้านหลังนิ้วชี้พุ่งลงเบื้องล่าง แสดงถึงการระลึกถึงที่มาของตน มีความกตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณทุกคนไม่ว่าจะอยู่สูงหรือต่ำกว่าตน เป็นเครื่องป้องกันตนไม่ให้ตกต่ำและนำพาสู่ความเจริญรุ่งเรือง และอีก ๓ นิ้วชี้เข้าหาตนแสดงถึงไตรลักษณ์ความเข้าใจถึงลักษณะที่เสมอกันของสังขารทั้งปวงอันได้แก่ อนิจจัง(ความไม่เที่ยง) ทุกขัง( ความเป็นทุกข์) และอนัตตา(ความไม่มีตัวตนที่แท้จริง) เพื่อเตือนตนให้ดำรงชีวิตด้วยความไม่ประมาท



มวลสารศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้สร้างเป็นหนุมานเหนือเมฆ รุ่น สำเร็จ สัมฤทธิ์ผล

หลวงพ่อสนองชาติท่านว่าของดีนั้นต้องดีตั้งแต่เริ่มอันหมายถึงเจตนาในการสร้าง ดีทั้งนอกอันได้แก่เนื้อหา มวลสาร และพิธีกรรม ดีทั้งในอันเกิดจากพลังที่ประจุลงไปในรูปสมมติที่สร้างขึ้น หลวงพ่อสนองชาติทำพิธีเสกชนวนโลหะทั้งหมดก่อนนำไปเททอง พร้อมจารแผ่นโลหะด้วยอักขระเลขยันต์ที่มีคุณวิเศษตามที่ท่านตั้งใจ จานแผ่นโลหะหัวใจหนุมานและอาการ ๓๒ จนครบสมบูรณ์ หลวงพ่อท่านยังมอบชนวนโลหะศักดิ์สิทธิ์อีกมากมาย เช่น ตะกั่วนมโบราณจากกรุศรีสวัสดิ์มีอิทธิทางคงกะพันเป็นเลิศเฉกเช่นเดียวกับพระท่ากระดาน อมตะพระกรุแห่งเมืองกาญจน์ ชนวนพระกริ่งสนองชาติและรูปหล่อรุ่นแรกของท่านอีกจำนวนมาก นอกจากนั้นท่านยังให้กังสดาลเนื้อสัมฤทธิ์โบราณมาเป็นฉนวน ท่านว่าเพื่อจะได้มีชื่อเสียงที่ดี โด่งดังเป็นที่กล่าวขาน กังวานไกลเป็นที่นิยมแก่ชนทุกหมู่เหล่า

สำหรับผงมวลสารนั้น หลวงพ่อท่านให้บรรจุแต่เฉพาะมวลสารศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นของท่านเองเท่านั้น ลูกศิษย์ใกล้ชิดตั้งใจถวายผงพรายกุมารหลวงปู่ทิมให้ท่านเพื่อใช้เป็นมวลสารในครั้งนี้ ท่านก็ว่าอย่าเลย ของหลวงปู่ทิมแห่งวัดละหารไร่นั้นก็ดีและมีอิทธิสูงมาก แต่ใช้ของเราเองจะเหมาะสมกว่า ผงที่หลวงพ่อสร้างไว้ก็ใช้ได้ผลดีและมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อภิบาลรักษาอธิษฐานใช้ดูเถอะแล้วจะรู้เอง …ทีผ่านมาคนหากันก็เพราะมีประสบการณ์แล้วบอกกันปากต่อปาก คนรู้ก็แสวงหากันตามปกติของมันเอง มันเป็นเรื่องทางโลก …. หลวงพ่อสนองชาติ มีความตั้งใจที่แน่วแน่ในการสร้างผงที่มีคุณวิเศษตามวิชาที่ท่านได้ศึกษามาและแสวงหาผงมวลสารที่มีคุณวิเศษ มีอาถถรรพ์ในตน หรือมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกปักษ์รักษา ท่านก็จะไปทำพิธีขออัญเชิญให้มาร่วมกันสร้างบุญบารมีมาช่วยเหลือคน หลังจากรวบรวมมวลสารศักดิ์สิทธิ์ได้ครบตามที่ท่านตั้งใจแล้ว ท่านได้นำมาทำพิธีอธิษฐานจิตเสกเดี่ยวด้วยการบำเพ็ญภาวนาสมาธิจนมีจิตมั่นคงในโบสถ์มหาอุตม์เป็นระยะเวลา ๙ วันโดยงดฉันท์อาหารทั้งปวงและรับแต่น้ำพระพุทธมนต์เพียงอย่างเดียว เพื่อให้มวลสารเหล่านั้นบริสุทธิ์และทรงพลานุภาพสูงสุด



โดยผงมวลสารที่ใช้อุดก้นหนุมานเหนือเมฆ รุ่นสำเร็จ สัมฤทธิ์ผล ประกอบด้วย

1. ผงพญาไม้ผุ เป็นพญาไม้ในป่าลึกที่มีฤทธิ์ในตนมีคุณวิเศษด้านคงกะพัน ป้องกันคุณไสย์ และมหาอำนาจเป็นเลิศ ไม้นี้มีคุณในตนไม่ต้องเสกก็ใช้ได้ สามารถกันอันตรายได้ทุกประการ หลวงปู่บุญแห่งวัดกลางบางแก้วท่านก็เคยใช้ผงพญาไม้ผุสร้างวัตถุมงคลที่ทรงพลานุภาพสูงและเป็นที่นิยมแสวงหากันมาก

2. ดินกากยายักษ์ เป็นของทนสิทธิ์มีพญาอสูรฝ่ายสัมมาทิฐืผู้เป็นใหญ่อภิบาลรักษา มีอานุภาพทางแคล้วคลาด กันภูติผีปีศาจ กันคุณไสยมนต์ดำสารพัด และการขอโชคขอลาภ

3. ผงยาฤษีสำเร็จ ผงธาตุกายสิทธิ์ด้วยฤทธิ์แห่งฤษีผู้สำเร็จฌานชึ้นสูง ที่มีคุณในทางยารักษาโรค ถอนพิษ ล้างอาถรรพ์ ป้องกันสัตว์ร้ายไม่ให้เข้าใกล้

4. ลูกอมคนธรรพ์ วัตถุอาถรรพ์ที่มีเทพคนธรรพ์ดูแลรักษา โดดเด่นทางเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ และอธิษฐานขอใช้ตามประสงค์

5. ผงแร่เขาเขียว แร่ศักดิ์สิทธิ์จากบารมีของเทวดาผู้เป็นใหญ่ มีอิทธิในตนเป็นเลิศด้านคุ้มครองจากอันตรายทั้งปวง เมตตาดีและนำพาให้อุดมไปด้วยโภคทรัพย์

6. ผงปถมัง มีอานุภาพหลายด้านหนักไปคงกระพันชาตรี จังงังกำราบศัตรู สะกดสัตว์น้อยใหญ่ให้ตกอยู่ในอำนาจ ป้องกันภูติผีปีศาจและคุณไสย์

7. ผงอิทธิเจ มีอานุภาพทางเมตตามหานิยมเป็นอย่างสูง เป็นมหาเสน่ห์ เป็นที่รักและเมตตาแก่ผู้ที่พบเห็น

8. ผงเขี้ยวหนุมาน ผลึกแร่ที่มีคุณวิเศษในตน กระตุ้นพลังชีวิต และทรงอิทธิฤทธิ์ไม่เสื่อมคลาย

โดยทั้งผงปถมังและผงอิทธิเจนี้หลวงพ่อสนองชาติท่านสร้างเองทุกขั้นตอนตามวิชาที่ครูบาอาจารย์ของท่านมอบให้และทำจนสำเร็จเห็นผลเป็นที่ประจักษ์
ราคาเปิดประมูล500 บาท
ราคาปัจจุบัน520 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ20 บาท
วันเปิดประมูล - 30 ส.ค. 2561 - 21:43:28 น.
วันปิดประมูล - 02 ก.ย. 2561 - 08:36:30 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลadoon (804)


(0)
ข้อมูลเพิ่มเติม 1 - 30 ส.ค. 2561 - 21:45:08 น.



พร้องมกล่องเดิมๆ


ข้อมูลเพิ่มเติม 2 - 30 ส.ค. 2561 - 21:49:56 น.



ใบดิมๆครับ


 
ราคาปัจจุบัน :     520 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     20 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    สุเวชกาญจน์ (35)

 

Copyright ©G-PRA.COM