(0)
ล๊อคเก็ตพ่อท่านทอง วัดป่ากอ อ.นาหม่อม จ.สงขลา








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องล๊อคเก็ตพ่อท่านทอง วัดป่ากอ อ.นาหม่อม จ.สงขลา
รายละเอียดหลวงพ่อทอง สุสังวโร วัดป่ากอสุวรรณาราม ตำบลนาหม่อม อำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลา หลวงปู่ทอง สุสังวโร อายุ 92 ปี พรรษา 54 อดีตเจ้าอาวาสองค์แรกวัดป่ากอสุวรรณาราม ตำบลนาหม่อม อำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลา พระอาจารย์ ์ชื่อดังมรณภาพด้วยอาการสงบเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2543 เวลา 12.08 น. ณ กุฎิของหลวงปู่ทองเอง ปัจจุบันร่างสังขารของหลวงปู่ทองบรรจุใน โลงแก้ว สภาพ สังขารของหลวงปู่ทองแห้งกลายเป็นหิน เส้นผม เล็บมือ เล็บเท้า งอกยาวขึ้น เห็นได้ชัดเจนมากทุกวันจะมีบรรดาศิษย์ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เช่น ชาวมาเลเซีย ชาวจีน ชาวสิงคโปร์ เดินทางมาเคารพร่างสังขารของหลวงปู่ทอง สุสังวโร จำนวนมากมาย เปรียบเสมือนท่านยังมีชีวิตอยู่ที่วัดสุวรรณาราม ประวัติของหลวงปู่ทอง สุสังวโร หลวงปู่ทอง สุสังวโร เกิดเมื่อวันเสาร์ เดือน 4 ปีระกา พ.ศ. 2452 เป็นบุตรของนายนวน และนางเภาทอง ห่อเพชร บิดาและมารดาของหลวงปู่ทอง มี บุตรด้วยกัน 3 คน คือ นายแดง นายทอง (หลวงปู่ทอง สุสังวโร) ส่วนคนที่ 3 นั้นเสียชีวิตตั้งแต่เด็กๆ เมื่อหลวงปู่ทอง สุสังวโร อายุได้ 3 ขวบ มารดา (นางเภาทอง ห่อเพชร) ได้ถึงแก่กรรม บิดา (นายนวน ห่อเพชร) พาไปฝากไว้กับลุงยอด กับป้าหนุ้ย เลี้ยงที่บ้านลุงและป้าของหลวงปู่ทอง สุสังวโร ด้านการศึกษา พออายุได้ 6 ขวบ ลุง ยอด ห่อเพชร ได้พาหลวงปู่ทองไปเข้าโรงเรียนที่วัดแม่เปียะ หลวงปู่ทองเรียนหนังสือยังมิได้จบชั้น ป.4 ป้าดำซึ่งเป็นญาติของหลวงปู่ทองอีกคนได้พาหลวงปู่ทองไปเรียน อยู่ที่บ้านไร่ คลองปอม ให้หลวงปู่ทองช่วยทำไร่จนอายุครบ 20 ปี บรรพชาและอุปสมบท ป้าดำได้พาหลวงปู่ทอง กลับมาบวชที่วัดแม่เปียะ ตำบลนาหม่อม อำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลา ในสมัยนั้น มีท่านพระคุณใช้ เป็นพระอุปัชฌาย์ บวชเมื่อ พ.ศ. 2473 ได้ฉายาว่า พระทอง ธรรมเสโน อยู่ที่วัดแม่เปียะไม่นาน หลวงพ่อลี ซึ่งเป็นคนแม่เปียะ บวชที่วัดแม่เปียะ แต่ได้ไปสร้างวัดอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย ได้กลับมาเยี่ยมเยียนบ้าน พบหลวงปู่ทอง และได้ชวนหลวงปู่ทองไปอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย ณ วัดสีตะวัน ปัจจุบัน เรียกวัดบุญญาราม หรือวัดธรรมนุ่ม คนจีนจะเรียกวัดธรรมบุญ อยู่ที่รัฐอีโป ประเทศมาเลเซีย หลวงปู่ทอง สุสังวโร อยู่ที่วัดบุญญารามได้ไม่นาน พ่อท่านเพชร สิ้นบุญ (มรณภาพ) ที่วัดแม่เปียะ เผาศพพ่อท่านเพชรที่ต้นโพธิ์ใกล้ๆ กับวัด นั่นเอง หลวงปู่ทอง สุสังวโร ได้เดินทางกลับมาที่วัดแม่เปียะ เมื่อหลวงปู่อง เดินทางมาแล้ว ก็ได้สร้าง กุฎิอยู่ที่ต้นโพธิ์ใกล้ๆ เมรุเผาศพของหลวงพ่อเพชร ต่อมามีโยมมาตามหาพ่อท่านเส้ง ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของพ่อท่านฟลอย ซึ่งท่านเก่งในทางปฏิบัติวิปัสสนา และท่านเป็นคน บ้านดอน จังหวัดสุราษฎร์ธานี มาอยู่ที่วัดพลีควาย (วัดพรหมประดิษย์ฐาราม) เมื่อได้พบกันแล้ว หลวงปู่ทองได้ฟังคำสอนและนึกเลื่อมใสพ่อท่านเส้งๆ สืบหาโยมคนหนึ่ง คือ แม่ชีเนียม พ่อท่านเส้งได้เดินทางมาจังหวัดสงขลา ที่บ้านนายปรีดาได้เจอกับแม่ชีเนียมตอนเช้าออกมาบิณฑบาต พ่อท่านเส้งได้นิมนต์แม่ชีเนียมมาเทศน์ที่วัดพลีควาย เพราะว่ามีชีเนียมทานอาหารเจ ถือปฏิบัติเทศน์สอนประชาชนเก่งมาก ชื่อของแม่ชีเนียมโด่งดังมาก แม่ชีเนียมได้รับนิมนต์พ่อท่านเส้งมาเทศน์ที่ วัดพลีควาย หลวงปู่ทองไป ที่วัดพลีควายที่พ่อท่านเส้งอยู่ได้พบแม่ชีเนียมเป็นครั้งแรก ได้ถามความเป็นจนมาเป็นที่เข้าใจ ต่อจากนั้นไม่นานพ่อท่านเส้งก็กลับ จังหวัดสุราษฏร์ธานี หลวงปู่ทอง สุสังวโร ก็ออกธุดงค์ไปจังหวัดนครศรีธรรมราช อำเภอทุ่งสง และจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้พบกับพ่อท่านเส้งอีกครั้ง พ่อท่านเส้งลูบหลังหลวงปู่ทอง สุสังวโร 3 ครั้ง พร้อมกับให้พร แล้วกลับไปบ้านดอน หลวงปู่ทองได้เดินทางกลับนาม่วง อำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลา ได้พบกับแม่ชีเนียม ซึ่งกลับจากกรุงเทพมหานคร มาพร้อมกับนายคง แม่ชีเนียมได้ ถามหลวงปู่ทองว่าปีนี้ท่านจะจำพรรษาที่ไหน หลวงปู่ทองตอบว่าท่านจะจำพรรษาที่บ้านไร่ เพราะว่าเป็นบ้านเดิมของป้าดำผู้มีพระคุณ แม่ชีเนียมบอกหลวงปู่ทองว่าอย่าไป คนเดียว จะไม่สบาย แต่หลวงปูทองบอกว่ารับปากโยมไว้แล้วก็ต้องไป พอใกล้วันเข้าพรราาหลวงปู่ทองก็ล้มป่วย พระอุปัชฌาย์ช่วยรักษาจนหายจากอาการป่วย ที่วัดแม่เปียะ อำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลา หลวงปู่ทองได้ลาสิกขาบท ออกไปอยู่ที่บ้านของป้าดำ ต่อมาได้ลาป้าดำตั้งใจจะตามหาพ่อท่านเส้ง หลวงปู่ทองได้ไปหาแม่ชีเนียมในตัวเมือง สงขลา เมื่อไปถึงบอกความประสงค์กับแม่ชีเนียม แม่ชีบอกจะไปด้วยให้อยู่ที่นี่ก่อนแล้วค่อยไป ตั้งแต่นั้นมาก็อยู่กับแม่ชีเนียมตลอดมา หลวงปู่ทอง สุสังวโร บวชครั้งแรก 7 พรรษา พอสิ้นสงครามโลกครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ. 2484 ช่วงนั้น หลวงปู่ทองได้ลาแม่ชีเนียมมาที่นาม่วง อำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลาอีกครั้ง ต่อมาได้อุปสมบทเป็นครั้งที่ 2 ณ พัทสีมาวัดทุ่งฆ้อโฆษิตาราม มีพระครูวิจารย์ธรรมโฆษิต (แช่ม) เป็นพระอุปัชฌาย์ ท่านสุกแก้ว วัดพลีควาย เป็นพระคู่ สวด กำนันผ่อง เป็นเจ้าภาพฝ่ายรับรอง ประมาณ พ.ศ. 2485 อยู่จำพรรษา 1 พรรษา แล้วไปอยู่ที่วัดพลีควายได้ออกธุดงค์ไปเกาะแก้วพิศดาร จังหวัดภูเก็ต จังหวัดสุราษฎร์ ธานี จังหวัดชุมพร จังหวัดสุโขทัย ในสมัยนั้น การเดินทางแสนลำบากสองข้างทางเต็มไปด้วยป่าเขาและสัตว์ดุร้าย แต่หลวงปู่ทอง ท่านไม่เคยกลัว ท่านเดินทางกลับจาก การธุดงค์ก็มาจำพรรษาอยู่ที่พรุเกษา อำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลา ต่อมาออกจากพรุเกษาก็ก็มาอยู่วัดกลางใจงาม (ปัจจุบันเป็นที่ตั้งอำเภอนาหม่อม) พอได้ 7 พรรษา ไป อยู่ที่ป่าบ้านนา 2 พรรษา และไปอยู่ที่ป่าช้าวัดโคกนาว อยู่ตรงข้ามมหาวิทยาลัย มอ. หาดใหญ่ ในสมัยก่อนเป็นเป็นป่าช้าใหญ่มาก วันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2501-2502 ออกพรรษาไปอยู่บ้านนาทองสุก ตำบลทุ่งขมิ้น อำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลา อยู่ได้ 9 พรรษา ก็ได้กลับมาอยู่ที่ป่าช้าวัดโคกนาวอีก ครั้งต่อมาได้ออกจากป่าช้าโคกนาว และ ได้ไปอยู่ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี 1 ปี หลวงปู่ทองได้กลับมาที่เขารูปช้าง อยู่ได้ 6 พรรษา แล้วมาอยู่ที่ต้นแซะ (ปัจจุบันเป็นสำนักสงฆ์ต้นแซะ ใกล้วัดปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา) อยู่ได้ 2 พรรษา มีพระธุดงค์แนะนำให้ไปหมู่บ้านกระเหรี่ยวแถวจังหวัดเพชรบุรี หลวงปู่ทองเกิดล้มป่วยเป็นไข้ป่าเกือบเอาชีวิตไม่รอด จึงได้ธุดงค์กลับจาก หมู่บ้านกระเหรี่ยง เมื่อกลับมาทุกคนช่วยกันรักษาหลวงปู่ทอง สุสังวโร จนหายจากอาการป่วย ด้วยโรคไข้ป่า หลวงปู่ทอง สุสังวโร ได้พบญาติ คือ นายแคล้ว อยู่บ้าน ควนโตน ซึ่งเป็นญาติในฐานะน้องชาย อยู่ได้ไม่กี่วันจึงชวนสามเณร ที่มาพร้อมกับหลวงปู่ทอง ธุดงค์มาที่ป่ากอ ซี่งเป็นที่ของนายแดง หลวงปู่ทอง สุสังวโร จึงได้จำวัดที่ ป่ากอ ที่บริเวณป่ากอนี้สมัยก่อน เคยเป็นวัด มีพ่อท่านองค์หนึ่งและสามเณรมาอยู่ในสมัยก่อน เสือได้กินสามเณร พ่อท่านเลยไปจากป่ากอ ต่อมาได้มีนายแดง เป็นคนหนุ่มโสด ยังไม่มีครอบครัว เพื่อนบ้านเรียกว่าท่านแดง ได้พาหลานชื่อ นายสี อินอุทัย มาอยู่ด้วย ตั้งรกราก ช่วยกันทำมาหากิน มีต้นไผ่อยู่หลายกอ พันธุ์ไม้อื่นๆ อีกจำนวนมาก หากใคร เข้ามาส่วนใหญ่จะหลงทาง เดินทางกลับไม่ถูก หลวงปู่ทอง สุสังวโร รู้ประวัติที่นี่ดี จึงเรียกนายแดง มาคุยเพื่อปลูกศาลา เมื่อหลวงปู่ทอง กลับจากธุดงคร์จะได้มาพักผ่อน และได้อยู่ใกล้ลูกหลาน เพราะว่าเป็นบ้านเกิด นายแดงได้ยกที่ดินให้ประมาณ 3 ไร่ ในปี พ.ศ. 2518 หลวงปู่ทอง สุสังวโร ได้มาจำพรรษาที่วัดป่ากอ เป็นครั้งแรก จึงได้ถือ กำเนิดสำนักสงฆ์ป่ากอขึ้นในปีนี้เอง ผลงานและการกุศล ในชีวิตสมณเพศของหลวงปู่ทอง สุสังวโร ได้ใช้ชีวิตคุ้มค่าในการปฏิบัติธรรมและบำเพ็ญประโยชน์แก่พระพุทธศานา และประเทศชาติ ในปี พ.ศ. 2542 ได้ช่วยทางราชการเพื่อการกุศล ดังนี้ - ซื้อที่ดินบ้านชายนา ให้ผู้ใหญ่บ้านทวี รับมอบและสร้างศาลาพักร้อน - ซื้อเครื่องเอ็กซเรย์ มอบให้โรงพยาบาลกองบิน 56 อำเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา - ช่วยเหลือชาติ มอบเงินให้นายชวน หลีกภัย (ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น) เป็นผู้รับมอบ - สร้างที่พักสายตรวจให้ สภอ.นาหม่อม อำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลา - บริจาควัสดุอุปกรณ์ให้แก่โรงพยาบาลนาหม่อม อำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลา ความศรัทธาของชาวต่างชาติ หลวงปู่ทอง สุสังวโร เป็นพระปฏิบัติเช่นเดียวกับพระนักปฏิบัติโดยทั่วไป ความศรัทธาของ ประชาชน ชาวต่างชาติ ส่วนใหญ่เกิดจากการที่ได้ฟังธรรมะของหลวงปู่ทอง ท่านจะแสดงธรรมง่ายๆ ให้นำไปปฏิบัติ เมื่อผู้ฟังนำไปปฏิบัติแล้วก็เกิดผล จึงทำให้ประชาชน ชาวต่างชาติดได้ทราบกิตติศัพท์ ของหลวงปู่ทอง สุสังวโร พากันเดินทางไปนมัสการและฟังธรรมกันจนวัดป่ากอสุวรรณารามเปลี่ยนแปลงจากสำนักสงฆ์ที่ไม่มีถาวรวัตถุ จนเวลานี้มีกุฎิ ศาลา และอาคารก่อสร้างต่างๆ เพิ่มขึ้นอีกมากมายด้วยแรงศรัทธา จากประชาชนชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งชาวต่างชาติที่เข้ามากราบไหว้หลวงปู่ทอง ได้แก่ ชาวมาเลเซีย ชาวสิงคโปร์ ชาวจีนและชาวอินโดนีเซีย
..................................................................................................................
หลวงปู่ทอง สุสังวโร ภิกษุผู้มีปฏิปทางดงามแห่งภาคใต้ ประชาชนเชื่อว่าท่านเป็นพระอริยสงฆ์ผู้บรรลุมรรคผลและทรงอภิญญา ท่านคือผู้มีญาณวิเศษติดต่อกับหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืดได้..ดังนั้นจึงมีสานุศิษย์เลื่อมใสศรัทธากล่าวขานกันมาก นับตั้งแต่ท่านยังไม่ละสังขาร และก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้พุทธบริษัทชาวมาเลเซีย ชาวสิงคโปร์ เดินทางมาแสวงบุญยังวัดป่ากอ...หลวงปู่ทอง สุสังวโร อายุ 92 ปี พรรษา 54 อดีตเจ้าอาวาสองค์แรกวัดป่ากอสุวรรณาราม ตำบลนาหม่อม อำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลา หลวงปู่มรณภาพด้วยอาการสงบเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2543 เวลา 12.08 น. ณ กุฎิของหลวงปู่ทองเองปัจจุบันร่างสังขารของหลวงปู่ทองบรรจุในสถานที่ปลอดภัย สภาพสังขารของหลวงปู่ทองแห้งกลายเป็นหิน เส้นผม เล็บมือ เล็บเท้า งอกยาวขึ้น เห็นได้ชัดเจนมาก ทุกวันจะมีบรรดาศิษย์ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เช่น ชาวมาเลเซีย ชาวจีน ...ชาวสิงคโปร์ เดินทางมาเคารพร่างสังขารของหลวงปู่ทอง สุสังวโร จำนวนมากมาย เปรียบเสมือนท่านยังมีชีวิตอยู่.....หลวงปู่ท่านมรณภาพด้วยโรคชราภาพ.... เช้าวันที่ท่านละสังขาร ท่านได้กล่าววาจาครั้งสุดท้ายกับศิษยานุศิษย์ที่มาเฝ้าอาการอาพาธของท่าน...และเป็นการเตือนภัยแก่ชาวหาดใหญ่ สงขลา ว่า...ให้ระวังจะเกิดวาตภัย และอุทกภัยใหญ่ภายในหลังจากที่อาตมาภาพละสังขารไปแล้ว ภัยธรรมชาติจะสร้างความสูญสียอย่างใหญ่หลวงมีผู้คนล้มตายจำนวนมาก ประชาชนจะอดอยาก น้ำตานองหน้าไปทั่วทุกหนแห่ง...หลวงปู่ทองกล่าวจบแล้ว ได้มีศิษย์ซักถามแต่ท่านไม่ได้พูดอะไร และอีกไม่กี่ชั่วยาม...ท่านก็ละสังขารอย่างสงบดับสิ้นเวทนาทั้งปวง...
ราคาเปิดประมูล390 บาท
ราคาปัจจุบัน400 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ10 บาท
วันเปิดประมูล - 08 ส.ค. 2563 - 15:46:07 น.
วันปิดประมูล - 18 ส.ค. 2563 - 00:33:05 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลchronos (850)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     400 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     10 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    pitchamew (486)

 

Copyright ©G-PRA.COM