(0)
พระปิดตาหลวงปู่แก้ว หลังยันต์สาม เนื้อผงจินดามณีผสมผงพรายกุมาร ตัวหนังสือ ว.ศ. ปี2521 พร้อมบัตรรับรองGraP อุ่นใจได้







ชื่อพระเครื่องพระปิดตาหลวงปู่แก้ว หลังยันต์สาม เนื้อผงจินดามณีผสมผงพรายกุมาร ตัวหนังสือ ว.ศ. ปี2521 พร้อมบัตรรับรองGraP อุ่นใจได้
รายละเอียดข้อมูลประวัติ หลวงปู่แก้ว เกสาโร วัดละหารไร่ จ.ระยอง
มีนามเดิมว่า เชียงคำ เกิดในสกุล คำมี ที่บ้านชนบท ต.ท่าฆ้อ อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด เมื่อวันอังคาร เดือน 6 ปีวอก ท่านเคยบวชเณรเมื่ออายุได้ 15 ปีและเที่ยวหาอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณเพื่อศึกษาเล่าเรียน วิชาที่ท่านเรียนนั้นเน้นหนักไปทางคงกระพันชาตรีและมหาอุด ด้วยถูกจริตนิสัยของท่านที่ค่อนไปทางนักเลงมาแต่เด็ก ต่อมาก็ลาสิกขาไปเมื่ออายุได้ 22 ปี
ช่วงชีวิตที่พลิกผันก็มาถึง เมื่อท่านเข้าพวกกับพรานป่าออกล่าสัตว์อยู่นานปีจนพลัดเข้าไปอยู่กับหมู่โจรโดยที่ท่านไม่ทราบมาก่อน ในที่สุดท่านก็จำยอมต้องเข้าพวกร่วมปล้นโดยมีเสือฉิ่งเป็นหัวหน้าและตัวท่านเป็นรอง
อาคมที่ท่านศึกษาเล่าเรียนมาได้ปรากฏชัดจนลือชื่อในระยะนี้เอง เพราะวันหนึ่งเสือฉิ่งคุมพวกเข้าปล้นบ้านนายบุญเพื่อเอาม้าเลี้ยงไปขาย หลวงปู่แก้วในขณะนั้นจึงโดดขึ้นหลังม้าเพื่อควบหนีไป ทว่านายบุญเจ้าของบ้านยกปืนส่องเข้ากลางหลังอย่างจังถึงกับตกจากหลังม้า
ผู้อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหลายไม่ว่าโจรว่าเจ้าของบ้านต่างมั่นใจว่าท่านตายแล้วแน่ ๆ ทันทีนั้นท่านก็ลุกพรวดพราดกระโดดขึ้นหลังม้าควบไปท่ามกลางความตกตะลึงของหมู่โจรและเจ้าบ้าน
ครั้นพวกเสือฉิ่งหนีกลับรังมาได้ก็ขอดูบาดแผลท่านเป็นการใหญ่ สิ่งที่เห็นเป็นแค่เพียงรอยช้ำเป็นจ้ำเป็นจุดเท่านั้น ลูกปืนยาวหาได้ระคายผิวท่านไม่
แต่นั้นมาลูกน้องทั้งหลายก็ขอให้ท่านเป็นผู้สักยันต์ให้ และคนเหล่านั้นได้กลายเป็นเสือติดปีกที่ปล้นฆ่าจนสร้างความหวาดกลัวให้ชาวบ้านเป็นอันมาก การปราบปรามของเจ้าหน้าที่บ้านเมืองก็ยังไม่สามารถทำอะไรโจรห้าร้อยพวกนี้ได้เลย
ท่านตั้งใจสักให้ลูกน้องเพื่อหวังคุ้มภัย แต่คนเหล่านั้นกลับไปเที่ยวก่อภัย ท่านเกิดความสลดสังเวชใจจึงเลิกสักให้ใครมานับแต่นั้น
สมัยฆราวาสท่านหนีอาญาบ้านเมืองไปอยู่ที่ใดท่านก็ได้ภรรยาที่นั้นทุกคราวไป ท่านหลบเจ้าหน้าที่มาเรื่อยและได้กบดานเงียบอยู่ที่ อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ถึง 10 ปี ตำรวจก็รู้แหล่งอีกจนได้ ท่านจึงหนีลงมาอีกกระทั่งถึง ต.ตาสิทธิ์ (ต.หนองละลอก-ปัจจุบัน)
และที่นี่เองท่านได้พบพวกมิจฉาชีพด้วยกันเพราะตำบลนี้สมัยก่อนเป็นป่าดิบดงทึบ บรรดาเสือที่หนีการจับกุมของทางการพากันมารวมตัวที่นี่มากมาย เช่น เสือชู เสือเหี้ยม เสือไม้ รวมถึง เสือเชียงคำ คือท่านด้วย
ดังกล่าวแล้วว่าอยู่ไหนก็ได้เมีย ที่นี่ท่านก็มีอีกหนึ่งพร้อมให้กำเนิดบุตรชายอีกคนซึ่งได้รับการตั้งชื่อว่า ด.ช. เช้า คำมี ซึ่งต่อมาหลวงปู่ทิมได้อุปการะเด็กชายเช้าจนเติบใหญ่ได้ดีเป็นถึงแพทย์ประจำตำบล
หลวงปู่แก้วใช้ชีวิตระหกระเหินจนเริ่มรู้สึกเบื่อหน่ายในชีวิตที่ผ่านมา ท่านนึกถึงความชั่วร้ายที่ท่านก่อไว้เป็นอันมากในอดีตก็ยิ่งสลดใจ ท่านจึงตัดสินใจบวชพระเมื่ออายุได้ 60 ปี ณ พระอุโบสถวัดหวายกรอง โดยมี หลวงพ่อลัด วัดหนองกระบอกเป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์เกียงเป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์สวัสดิ์เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า เกสาโร
บวชแล้วท่านยังได้ต่อวิชากับพระอาจารย์เกียงซึ่งเป็นพระชาวเขมรจนเจนจบ ต่อมาได้ย้ายมาจำพรรษาที่วัดละหารไร่ และได้ต่อวิชาอีกกับหลวงปู่ทิม ท่านได้เห็นความเก่งกล้าสามารถในวิชาอาคมและอำนาจจิตตานุภาพที่กล้าแข็งของหลวงปู่ทิม ท่านจึงยอมรับหลวงปู่ทิมว่าเก่งจริงจนหมดใจ ถึงกับเรียกหลวงปู่ทิมอย่างเคารพสูงสุดว่า "คุณพ่อ"
ต่อมาหลวงปู่แก้วก็เริ่มมีชื่อเสียงด้วยการสรรเสริญจากปากขององค์อาจารย์คือหลวงปู่ทิมบ่อยครั้ง ผู้คนจึงเริ่มเข้าหาท่านโดยขอตะกรุดบ้าง ผ้ายันต์บ้าง และที่สร้างชื่อให้ท่านมากคือการสักยันต์ ซึ่งส่วนมากการสักของท่านจะเป็นการสักน้ำมันเสียทั้งนั้น
คุณอาท่านหนึ่งของผมเป็นทหารเรือ เป็นราชองครักษ์พิเศษของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและเป็นคนที่รักในทางขลังอยู่ไม่น้อย ท่านชื่อนาวาเอกจำเนียร ตู้จินดา เคยเดินทางไปกราบหลวงปู่ทิมบ่อยครั้ง เมื่อศรัทธาในหลวงปู่ทิมถึงที่สุดก็เอ่ยปากขอให้ท่านสักยันต์ให้ด้วย
ทว่า หลวงปู่ทิมกล่าวปฏิเสธ ท่านว่าเลิกสักใครมานานแล้ว แต่ถ้าอยากสักจริง ๆ ก็ไปขอท่านแก้วเขาสักให้ เรียบร้อยแล้วจึงมาหาท่านอีกทีท่านจะเป่าให้
คุณอาจึงเดินไปขอเมตตาหลวงปู่แก้วสักน้ำมัน ท่านก็รับคำด้วยดี เหล็กสักปักลงหลังของผู้นั่งเหยียดเท้าประณมมือครั้งแล้วครั้งเล่า คุณอาทนเจ็บด้วยหวังในวิทยาคุณอันประเสริฐ พักใหญ่การสักก็เสร็จสิ้น แต่หลวงปู่ยังให้คุณอานั่งอยู่ในท่าเดิมสักพัก
ทันใดนั้น นายทหารใหญ่ก็สัมผัสได้ถึงแรกกระแทกเข้ากับแผ่นหลังดัง บึ้ก อย่างแรงจนสะเทือน ด้วยความแปลกใจก็หันขวับไปดู แล้วท่านก็ตกใจสุดขีดเมื่อเห็นหลวงปู่แก้วถือดาบโบราณยาวเป็นวาขาววับอยู่เบื้องหลังในอาการที่เหมือนว่าจะ "ซ้ำ" เป็นหนสอง
นาทีนั้นทั้งที่อยู่ในท่านั่งเหยียดเท้าคุณอากลับดีดตัวเองด้วยความตกใจอย่างที่สุดออกห่างองค์หลวงปู่ไปหลายเมตร จนคุณอาเองยังแปลกใจอยู่ทุกวันนี้ว่าตัวลอยไปไกลขนาดนั้นได้อย่างไร อาเนียรเล่าไปขำไป ผมก็พลอยขำไปด้วย แต่ในใจยังสงสัยว่าถ้าเป็นตูจะขำออกหรือเปล่า
เหตุนี้ท่านผู้การจำเนียรจึงให้ความเชื่อถือในอาคมของหลวงปู่แก้วเป็นอันมาก ไปกราบหลวงปู่ทิมคราวใดต้องแวะหาหลวงปู่แก้วด้วยทุกครั้งไป
หลวงปู่ทิมการันตีหลวงปู่แก้วหลายต่อหลายครั้งว่า “ท่านแก้วเขาสำเร็จธาตุ” คำประกาศนี้อาจไม่ใหญ่คับฟ้าดังประกาศของหนังสือชั้นนำอย่างกินเนสบุ๊ค แต่มันเป็นประกาศนียบัตรทางวาจาที่ปราชญ์ในศาสตร์นี้มีให้แก่กัน
ประมาณว่าปราชญ์ย่อมรู้ในปราชญ์
มีเรื่องเล่าอยู่ว่า ครั้งหนึ่งเมื่อหลวงปู่ทิมทราบว่าท่านอาจารย์เพียรวิทย์ได้เอาเหรียญเจริญพรไปลองยิง ท่านบอกให้บอกให้อาจารย์เพียรวิทย์เอาปืนมาลองยิงตัวท่านเลย ไม่ต้องไปลองเหรียญ เรื่องถึงหูหลวงปู่แก้ว ท่านเลยของขึ้นฉี่ใส่ตอไม้ บอกว่า… ไม่ต้องไปลองพระหลวงปู่ทิมหรอก แค่ตอไม้ที่ท่านเยี่ยวใส่ ไปยิงให้ออกก่อนเหอะ
จึงทำให้อาจารย์ชินพรทราบว่า นอกจากหลวงปู่ทิมแล้ว ยังมีพระชราขมังเวทย์ซ่อนตัวอยู่ในวัดนี้อีกองค์นึง นั้นคือต้นกำเนิดเหรียญรุ่นแรกของหลวงปู่แก้ว
แต่กระนั้น อาจารย์ชินพรก็ยังไม่มั่นใจในวิชาอาคมของหลวงปู่แก้วเต็ม100 จึงหอบเอาเหรียญรุ่นนี้ไปขอให้หลวงปู่ทิมเสกอีกสักรอบ
แต่คำตอบที่ได้ คือ ไม่!…ยังไงก็ไม่…
เพราะหลวงปู่ทิมท่านก็ถือว่านี่เป็นเหรียญรุ่นแรกของหลวงปู่แก้ว จะให้ท่านมาเสกอีกจะเป็นเหมือนท่านอวดอ้างว่ามีวิชาเหนือกว่าหลวงปู่แก้ว ซึ่งท่านเองก็ทราบว่าหลวงปู่แก้วนั้น สำเร็จธาตุ
บ่อยครั้งที่หลวงปู่ทิมจะนิมนต์หลวงปู่แก้วไปปรับธาตุในวัตถุมงคลหลายรุ่นก่อนที่หลวงปู่ทิมจะเสก ท่านว่า “ให้ท่านแก้วปูฐานก่อน เบาแรงได้มาก ไม่เหนื่อย”
มีเรื่องเล่าว่าหลวงปู่แก้วนั้น ท่านสำเร็จวิชาธาตุ มาตั้งแต่สมัยเป็นฆราวาส มีวิชาสร้างผงจินดามณี โดยท่านสามารถลบผงวิเศษได้เอง พุทธคุณของผงจินดามณีมีรอบด้านแล้วแต่จะอธิษฐาน แต่เด่นในเรื่องของ เมตตา และโชคลาภ
ดังจะเห็นได้จากสมัยหลวงปู่แก้ว เป็นฆราวาส ท่านมีเมียหลายคน ไม่มีใครทราบว่าท่านได้รับการถ่ายทอดวิชาการสร้างผงจินดามณี จากท่านใด
นอกจากนั้น ท่านยังเก่งในเรื่องงอาถรรพณ์วิเศษ หลวงปู่แก้วท่านได้รับการถ่ายทอดจากหลวงปู่เคียง วัดไผ่ล้อม โดยต้องทำพิธีพลีดิน พร้อมกับผงอังคารกลางดวงใจ ของคนตายวันเสาร์ เผาวันอังคาร 9 ศพ เมื่อได้ผงดินและเถ้าอังคารกลางดวงใจแล้วท่านต้องนำมาผสมกับว่าน 108 พร้อมกับทำพิธีปลุกเสกจนสำเร็จ อธิษฐานได้ดังใจนึก ผงชนิดนี้ทำยากมาก ถ้าไม่มีวิชาแกร่งกล้าพอ คนทำจะถูกกระทำแทน
ผงอาถรรพณ์นี้เมื่อหลวงปู่แก้วทำสำเร็จแล้ว ท่านจะเก็บไว้อย่างดี ผงอาถรรพณ์วิเศษนี้ เด่นทางด้านแคล้วคลาด คงกระพันชาตรี ไม่เป็นลองใคร
ราคาเปิดประมูล1,000 บาท
ราคาปัจจุบัน2,500 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ100 บาท
วันเปิดประมูล - 06 พ.ย. 2563 - 13:07:24 น.
วันปิดประมูล - 15 พ.ย. 2563 - 21:09:08 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลjouicepeam (1.1K)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     2,500 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     100 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    Popeye (59)

 

Copyright ©G-PRA.COM