| รายละเอียด | เหรียญหลวงปู่ทิม อิสริโก รุ่นมหาบารมี หมื่นยันต์บูรพา หลวงพ่อแฮ้ว วัดยางเอน (ลูกศิษย์หลวงพ่อสาคร) เนื้่อทองแดงนอก หมายเลข 261 เลขรวมกันได้ 9 เลขมงคล ขนาดเหรียญ 3.5 ซ.ม. จากชุดกรรมการนำฤกษ์ ตอกโค๊ตนำฤกษ์และหมายเลข
ประวัติ พระใบฏีกาอารมย์ จันทสโร (หลวงพ่อแฮ้ว) วัดยางเอน ต.ห้วยทับมอญ อ.เขาชะเมา จ.ระยอง ผู้สืบทอดพุทธาคมสาย
-หลวงปู่อ่ำ วัดหนองกระบอก
-หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
-หลวงพ่อวงษ์ วัดบ้านค่าย
โดยได้ศึกษาร่ำเรียนจากหลวงพ่อลัด วัดหนองกระบอกและหลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับศิษย์เอกหลวงปู่ทิม และได้ศึกษาวิชาจากพระอธิการทอง วัดบ้านค่ายอีกทั้งยังได้รับเคล็ดวิชาการสร้างเสกแพะ ตำราหลวงปู่อ่ำจากหลวงพ่อลัด วัดหนองกระบอกมาอีกด้วย...
หลวงพ่อแฮ้วจึงนับได้ว่า เป็นผู้รอบรู้ศาสตร์วิชาสายระยองอย่างครบถ้วน
หลวงพ่อแฮ้ว จันทสโร มีนามเดิมว่า อารมย์ สร้อยสอิ้ง
เกิดเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2493 ที่บ้านคลองคลา ต.ตาขัน
อ.บ้านค่าย จ.ระยอง บิดาชื่อ นายยุ้ย มารดาชื่อ สุรินทร์ มีพี่น้องทั้งหมด 7 คน หลวงพ่อแฮ้ว เป็นบุตรคนที่ 2 ครอบครัวมีอาชีพ
ทำนา,ทำไร่ เป็นเกษตรกร เมื่ออายุได้ 12 ปีเกิดความใฝ่รู้และสนใจในวิชาไสยศาสตร์
จึงได้ไปฝากตัวเป็นศิษย์กับหมอวิง สร้อยสอิ้ง ซึ่งเป็นศิษย์หลวงพ่อวงษ์ วัดบ้านค่ายที่มีชื่อเสียงใน ขณะนั้นจึงได้วิชา เบิกผีหลวง,วิชาทำแหวนพิรอด,วิชาทำตะกรุด,ทำน้ำมนต์
เมื่ออายุ 20 ก็ได้เข้ารับการเกณฑ์ทหาร รับราชการ
ในสังกัดนาวิกโยธิน กองพันที่ 7 ค่ายสุรสิงห์หนาท จ.ระยอง
ได้ถูกส่งลงไปอยู่ 3 ชายแดนใต้ เพื่อยกกองพันไปปราบ (ผกค.) ผู้ก่อความไม่สงบ ที่สงขลา ยะลา ปัตตานี สุไหงโกลก เป็นเวลา 3 เดือน ก่อนจะกลับมาอยู่ที่ค่ายสุรสิงห์หนาท ต่อมาได้มีคำสั่งจาก จอมพลถนอม กิตติขจร มีคำสั่งให้ไปปราบผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิส ณ เขายาบ,ภูกระดึง,เขาภูขี้เถ่า,ภูหินร่องเกล้า
ทุกครั้งที่ออกล่าตะเวน มักจะนำเถาวัลล์ เชือก ที่หาได้ใกล้ๆที่พัก
นำมาทำเป็นแหวนพิรอด ตะกรุด ลงอักขระ เสกให้เพื่อนๆด้วยกันติดตัวไว้ เมื่อเกิดเหตุประทะ ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บล้มตาย เพื่อนๆและผู้บังคับการจึงเรียก พลทหาร อารมย์ ว่า (ไอ้หมอผี)
เมื่อปลดประจำการจึงได้ กลับมาช่วยหมอวิง โดยช่วยทำน้ำมนต์และยาต้ม อีกทั้งยังได้ศึกษา วิชาจาก หมอแถบ หมออินทร์ อ.อุ่นที่ล้วนแล้วแต่เป็นหมอฆาราวาสที่เรียนวิชาสายหลวงพ่อวงษ์ หลวงพ่ออ่ำ และได้เรียนวิชาจากหมอสวน ศิษย์เอกหลวงพ่อวงษ์จนหมอสวนกล่าวว่า "ที่สอนให้นี้เราสอนให้จนหมดที่เราเรียนมาจากหลวงพ่อวงษ์ นะ รักษาไว้ให้ดี" เมื่อถึงเดือนพฤษภา 2516
หมอสวนจึงได้เป็นเจ้าภาพอุปสมบทพระภิกษุอารมย์
โดยมี พระอธิการทอง วัดบ้านค่ายเป็นกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์หนอย เป็นอนุสากรรมวาจารย์ โดยมี
(หลวงพ่อลัด วัดหนองกระบอก ) เป็น อุปัชฌาย์ และจำพรรษาอยู่ที่วัดบ้านค่ายระหว่างนั้นได้เดิน ทางไปศึกษา วิชากับหลวงพ่อลัด ที่วัดหนองกระบอก หลายครั้งจน หลวงพ่อลัด ท่านถ่ายทอดวิชาเสกแพะตามแบบฉบับหลวงปู่อ่ำให้ เมื่อบวขอยู่ 2 พรรษาจำต้องสึกเนื่องด้วยไม่มีใครช่วยพ่อทำงาน ในระหว่งนั้นก็ยังไปช่วยโยมอาวิงรักษาคนป่วยที่ถูกของ คุณไสย์และศึกษาหาความรู้ไปเรื่อยๆจนอายุ 27 ได้มีครอบครัวมีบุตร 1 คนต่อมาเกิดเบื่อทางโลกจึงได้
บวชครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2540 โดยมีพระครูวิสิฐวิหารคุณ เจ้าอาวาสวัดหนองตะแบก เป็นกรรมวาจาจารย์ และพระอธิการณรงค์ศักดิ์ วัดหนองคอกหมู เป็นอนุสากรรมวาจาจารย์ และพระครูวิบูลภารกิตติ์ เจ้าอาวาสวัดตาขัน เป็นอุปัชฌาย์ อยู่จำพรรษาที่วัดหนองคลอกหมู ระหว่างนั้นได้ไปเรียนวิชาต่างๆ จากหลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ หลวงพ่อสาคร ท่านเมตตาสอนวิชาสร้างพระเครื่อง, เคล็ดวิชาบวงสรวงเสกแพะ วิชาทำน้ำมนต์
เจิมบ้าน,เจิมรถ และยังได้รับมอบผงพรายกุมาร ไว้เพื่อสร้างพระอีกด้วย
เมื่ออยู่ได้ 3 พรรษาได้มีญาติโยมและชาวบ้านยางเอนได้นิมนต์มาจำพรรษาที่สำนักสงฆ์ยางเอนจึงได้รับปากชาวบ้านและได้พัฒนาสำนักสงฆ์ยางเอนจนเลื่อนเป็นวัดในปี 2545 และได้แต่งตั้งเป็น
เจ้าอาวาสตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน |
(