(0)
พระขุนแผนแขนอ่อนรุ่นแรก หลวงพ่อชื้น วัดญาณเสน จ.อยุธยา สวยย






รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องพระขุนแผนแขนอ่อนรุ่นแรก หลวงพ่อชื้น วัดญาณเสน จ.อยุธยา สวยย
รายละเอียดระขุนแผนแขนอ่อนรุ่นแรก หลวงพ่อชื้น วัดญาณเสน จ.อยุธยา ปี ๒๕๔๕ เนื้อเคลือบเขียวเหนี่ยวทรัพย์ หลังจารมือ สวยมากๆ หายากค่ะ พร้อมกล่องเดิมๆ

เมื่อก่อนปี พ.ศ. 2500 ที่วัดญาณเสน จ.พระนครศรีอยุธยา มีพระอาจารย์ผู้เรืองวิชารูปหนึ่ง ชื่อ หลวงพ่อชื้น พุทธสโร ช่วยเหลือชาวบ้าน รักษาโรคภัยไข้เจ็บด้วยน้ำพระพุทธมนต์ มีชื่อเสียงมากในทางแก้คุณไสย ป้องกันภูตผีปีศาจ ถูกกระทำ โรคกรรมเก่า โรคจิตวิปริต จิตฟุ้งซ่าน คลอดลูกไม่ออก พ่นตาแดง รักษาฝี ฯลฯ

เมื่อหลวงพ่อชื้นเสกน้ำมนต์ ให้ดื่มกินก็ปรากฏว่าหายวัน หายคืน อย่างน่าประหลาด เหล่าภูตผี เจ้าที่หรือวิญญาณที่มีสิงสู่ในตัวตน เมื่อรู้ว่ามีผู้นำน้ำพุทธมนต์เสกของหลวงพ่อชื้นมา ก็รีบหนีไปผุดไปเกิดทันที จนเป็นที่เลื่องลือกันไปทั่วตลาดหัวรอ และ ตลาดเจ้าพรหม ผู้ทีชอบทางค้าขาย หลวงพ่อก็จะเสกธะนางกวักเรียกคนเข้าร้านให้ ผู้ที่ชอบทางโลดโผน ผจญภัย เป็นรั้วของชาติ ท่านก็สร้างตะกรุดโทนแจกให้

ในสมัยนั้นบรรดาเกจิอาจารย์นิยมเล่นแร่แปรธาตุ โดยนำโลหะต่างชนิดกันมาผสมกัน เพื่อให้เป็นทองคำให้เป็นแร่ธาตุกายสิทธิ์ผสมโลหะ 5 อย่าง 7 อย่าง 9 อย่าง ออกมาเป็นสัตตโลหะ นวโลหะ อย่างเช่น หอกของหลายชุมพล ปลายหอกทำด้วยสัตตโลหะ ใครที่ว่าเหนียว เมื่อเจอโลหะผสมก็เปื่อยเป็นเนื้อต้มทีเดียว

หลวงพ่อชื้น ท่านก็ลองวิชาของท่านเหมือนกัน นำโลหะมาผสมได้เนื้อเหลืองทางทองคำก็มี เนื้อเหลือบใสแดงขาวก็มี ท่านเรียกโลหะของท่านว่า เนื้อลูกแก้ว ท่านผสมไว้มากมายใต้ถุนกุฏิ เมื่อใครมาขอท่านก็หลอมเป็นลูกอมเล็ก ๆ ให้พกติดตัว ผู้ที่ได้ไปก็แคล้วคลาดภัยอันตรายต่าง ๆ ถ้าวันใดว่าง ๆ ท่านก็จะให้ศิษย์ไปหาตะปูสังฆวานรตามเจดีย์ร้างเก่า ๆ มาหลอมรีดเป็นตะกรุด ผู้ได้ไปก็มีความคงกระพันชาตรี มหาอุด หยุดลูกปืน จนท่านทำให้แทบไม่หวาดไหว

จนกระทั่งต้นปี พ.ศ. 2500 มีพระธุดงค์รูปหนึ่งได้ธุดงค์ผ่านมาที่วัดญาณเสน พบกับ หลวงพ่อชื้นเข้าโดยบังเอิญ ท่านอาจารย์ทั้งสองเกิดถูกอัธยาศัยกัน จึงได้สนทนาธรรมกัน ผู้ศึกษาธรรมย่อมรู้ญาณซึ่งกันและกัน เพียงสนทนากันไม่กี่ประโยคก็ทราบได้ว่ามีความรู้เพียงใด บำเพ็ญเพียร มามากเพียงใด

พระธุดงค์เปรยขึ้นมาว่า ที่ท่านชื้นได้ร่ำเรียนวิชามานั้น ยังยึดมั่นถือมั่นอยู่ในวัตถุ ต้องปล่อยปละละวาง ละความโลภ โกรธ หลง ทั้งปวง พร้อมทั้งแนะนำธรรมะ และข้อปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้นอีกหลายข้อ ตามแนวทางของพระพุทธองค์ หลวงพ่อชื้นจึงได้กราบขอเป็นศิษย์ พระธุดงค์รูปนั้นก็มิได้ปฏิเสธ และพูดว่า

“นับเป็นกุศลของอาตมาที่จะได้ช่วยให้ผู้มีบุญวาสนาอยู่แล้วได้สำเร็จมรรคผล”

นับแต่วันนั้นมาพระภิกษุทั้ง 2 รูป ก็ได้ทบทวนศีล 227 ข้อ พระธรรมวินัยต่าง ๆ ภายในพระอุโบสถ ครั้นยามค่ำคืนก็พากันนั่งสมาธิอยู่โคนต้นโพธิ์ ภายในวัดญาณเสน โดยที่หลวงพ่อชื้นจะภาวนาพระคาถาต่าง ๆ ไปด้วย และลงท้ายด้วยภาวนา นัตถิเม มีพระธุดงค์รูปนั้นนั่งสมาธิคุมไปด้วย

จนกระทั่งเวลาได้ผ่านไป 2 เดือน กับอีก 27 วัน หลวงพ่อชื้น ท่านก็ยังไม่ได้อะไร เพียงแต่ว่าจิตใจสบายและสงบขึ้น และในคืนวันที่ 27 นั้นตอนใกล้รุ่งที่โคนต้นโพธิ์ หลวงพ่อชื้น ท่านได้ยินเสียงเหมือนคนหว่านทรายมารอบ ๆ ตัวท่าน จึงลืมตาถามพระธุดงค์ ว่า “นั่นเสียงอะไร” พระธุดงค์ จึงตอบว่า “ผีประจำต้นโพธิ์มันจะเข้าต้นไม้ มันไล่ท่านแล้ว”

คืนต่อมาหลวงพ่อชื้น จึงขอเข้ามานั่งสมาธิอยู่ในโบสถ์ จะได้ไม่ไปรบกวนเจ้าที่เจ้าทาง หลังจากนั่งในพระอุโบสถคืนที่ 3 ใกล้รุ่ง หลวงพ่อชื้น ก็นิมิตเห็น องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้านั่งสมาธิลอยมา ถึง 3 พระองค์ และพระธรรมจักร เปล่งรัศมีโชติช่วง หมุนอยู่ระหว่างกลางองค์พระ ทั้ง 3 พระองค์ เมื่อหลวงพ่อชื้นถอนสมาธิก็บังเกิดความสว่างขึ้นภายในดวงใจเต็มไปด้วยความปิติ จะนึกสิ่งใดต้องการรู้สิ่งใดก็มีคำตอบขึ้นมาเสร็จ ท่านจึงได้เล่านิมิตให้พระธุดงค์ฟัง พระธุดงค์รูปนั้นท่านก็บอก ว่า “อาตมาหมดหน้าที่แล้ว อาตมาจะกลับไปที่บ้านเกิดของอาตมา ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดโบสถ์ อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา”

หลังจากวันนั้นแล้ว พระธุดงค์องค์นั้นก็ธุดงค์กลับ แม้หลวงพ่อชื้นจะอ้อนวอนให้อยู่ต่อ เพื่อจะได้สนองคุณดูแลเมื่อยามแก่เฒ่า หลวงพ่อชื้น เล่าว่า พระธุดงค์องค์นั้น ชื่อ หลวงพ่อเสน เตชะธัมโม เป็นชาวโคราช อำเภอสูงเนิน มาอยู่กรุงเทพฯ ตั้งแต่เล็ก ๆ กับพระยาท่านหนึ่ง ต่อมาได้อุปสมบทที่วัดบรมนิวาส ได้เล่าเรียนพระปริยัตธรรม วิปัสสนากรรมฐานอยู่กับ พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท) จนกระทั่งมีความคงแก่เรียน จึงได้ออกรุกขมูลธุดงค์หาความวิเวกไปตามสถานที่ต่าง ๆ จนกระทั่งบำเพ็ญเพียรถึงขั้นสูงสุด

หลวงพ่อชื้น เล่าว่า ท่านได้ส่งกระแสจิตถึงกันอยู่เสมอ เพียงแต่นึกถึงกัน ก็สนทนากันได้แล้ว และหลังจากนั้นอีก 5 ปี พระอาจารย์เสน เตชะธัมโม ก็มรณภาพ ในท่านั่งสมาธิอยู่บนภูเขาแห่งหนึ่ง ในอำเภอสูงเนิน เมื่อหลวงพ่อชื้นทราบข่าว ก็ขึ้นไปทันที กว่าจะหาศพพบก็เป็นเวลา 7 วัน ปรากฏว่านั่งมรณภาพในขณะสมาธบำเพ็ญเพียรอยู่ในซอกหิน ศพไม่เน่าเปื่อยเหมือนคนหลับธรรมดา สัตว์ป่า หรือ มด แมลง ก็มิได้มาไต่ตอม หลวงพ่อชื้นท่านก็ได้ช่วยทำการฌาปนกิจอย่างสมเกียรติ แล้วจึงเดินทางกลับ

มีผู้ถามท่านว่า พระของหลวงปู่กันนิวเคลียร์ได้ใช่ไหมครับ ท่านตอบว่า "ได้" และบอกอีกว่า นิวเคลียร์เป็นพลังทางโลกจะสู้พลังทางธรรมไม่ได้

หลวงปู่ครับ ทำไมพระของหลวงปู่ถึงมีพระ 3 องค์ มีจักรด้วย หมายถึงอะไรครับ (เรียกรัตนจักร)
ท่านตอบว่า "พระ 3 องค์ คือ พระรัตนตรัย มีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จักรคืออำนาจ"

มีผู้ถามหลวงปู่ดู่ว่า “หลวงปู่ครับ ....หากว่าหลวงปู่มรณภาพจากไปแล้ว พวกกระผมจะไปกราบพระที่ไหนเป็นครูบาอาจารย์ต่อไปดีขอรับ.....????
หลวงปู่ดู่ตอบว่า “เออ....งั้นให้พวกแกไปกราบ “พี่ชื้น” ที่วัดญาณเสนแทนเถอะ ท่านเป็นพระดีนะ.....”

หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา ยังได้บอกศิษย์ว่า ให้ไปทำบุญกับหลวงปู่ชื้น จ.อยุธยา
หลวงปู่พรหมา เขมจาโร ยังให้ลูกศิษย์ที่เป็นฤาษี มาเก็บบูชา พระหลวงปู่ชื้น

หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่ ยังเคยเอ็ดเอากับชาวอยุธยาว่า "ใกล้เกลือกินด่าง" หมายความว่า ชาวอยุธยาผู้นั้นเดินผ่านวัดหลวงปู่ชื้น กลับไม่รู้ว่ามีเพชรแท้อยู่หน้าบ้านตัวเอง
แต่กลับไปกราบหลวงปู่แหวน ซึ่งห่างไปตั้งหลายร้อยกิโล

หลวงปู่ชื้น พุทธสโร พระเกจิอาจารย์เปี่ยมด้วยเมตตาแห่งวัดญาณเสน จ.พระนครศรีอยุธยา ได้มรณภาพละสังขารตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายน 2546 เวลา 09.40 น. ด้วยอาการสงบรวมอายุ 97 ปี เกิดเมื่อวันพุธที่ 18 มีนาคม 2450 ก่อนที่หลวงปู่จะมรณภาพท่านได้สั่งไว้ว่าไม่ต้องฉีดยา สภาพศพดูเหมือนเป็นปรกตินอนหลับอย่างธรรมดาทั่วไป จนผ่านไปหลายวันแล้วไม่เน่าไม่เปื่อย ไม่มีกลิ่นเหม็นเหมือนคนทั่วไป ประชาชนทั่วไปที่ทราบข่าวว่าหลวงปู่ชื้นได้มรณภาพลงแล้ว จึงแห่กันมากราบไหว้และขอรับเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมกันเป็นจำนวนมาก ขณะทางวัดได้นำศพหลวงปู่ขึ้นไว้ใส่ในโลงศพแก้ว เพื่อศิษยานุศิษย์และประชาชนทั่วไปได้กราบไหว้สักการะทุกวัน

คำอาราธนาพระเครื่อง ให้ว่าดังนี้
พุทธัง ฤทธิ ธัมมัง ฤทธิ สังฆัง ฤทธิ ชัยยะมังคะลัง เอหิ พุทธัง เอหิ ธัมมัง เอหิ สังฆัง เอหิ จิตตัง มะมะ เอหิ
ให้ท่านอาราธนาทุกเช้าค่ำ แล้วท่านจะสำเร็จตามความปรารถนาตามที่ท่านอธิษฐาน

พระขุนแผนแขนอ่อนเนื้อเคลือบ รุ่นแรก หลวงพ่อชื้น ด้านหลังมักปั๊มยันต์หมึกน้ำเงิน และจารมือสีน้ำเงินค่ะ สวยมากๆ หายาก รุ่นนี้วัดสร้างเอง พร้อมกล่องเดิมๆค่ะ อีกหน่อยคงจะหาไม่ได้แล้ว

ขุนแผนชุดนี้หลวงปู่ท่านตั้งใจปลุกเสกให้เป็นพิเศษ โดยอธิฐานจิตภายในโบสถ์ ซึ่งวัตถุมงคลหลวงปู่ชื้นส่วนใหญ่หลวงปู่ท่านจะอธิฐานจิตที่ศาลาธรรมสภา หรือ กุฎิหลวงปู่ พิธีนี้หลังจากถ่ายรูปออกมา ปรากฎมีแสงสีรุ้งพุ่งลงมาที่ศรีษะหลวงปู่ชื้นเป็นที่น่าอัศจรรย์

พุทธคุณเด่นในด้าน เสน่ห์ เมตตามหานิยม แคล้วคลาด ปลอดภัย
ราคาเปิดประมูล767 บาท
ราคาปัจจุบัน-- ยังไม่มีผู้เสนอราคา -- (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ10 บาท
วันเปิดประมูล - 19 ม.ค. 2564 - 08:57:04 น.
วันปิดประมูล - 22 ม.ค. 2564 - 08:57:04 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลwath132 (2.7K)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     767 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     10 บาท

!!! ท่านต้อง login เข้าสู่ระบบก่อน จึงจะสามารถร่วมประมูลได้ !!!


 

Copyright ©G-PRA.COM