(0)
สมเด็จหลวงปู่เทียนวัดโบสถ์ มาพร้อมผลตรวจสอบเวปครับ








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องสมเด็จหลวงปู่เทียนวัดโบสถ์ มาพร้อมผลตรวจสอบเวปครับ
รายละเอียดหลวงปู่เทียน วัดโบสถ์ ปทุมธานี ฝังตะกรุด ๒ ดอก ๒๕๐๖ เนื้อจัด หนึกนุ่ม แตกลายงาตามธรรมชาติ สวยๆ องค์นี้ส่งตรวจสอบจาก GPra แล้ว "แท้" เก็บบูชาสบายใจครับ พระเกจิยุคต้น ตำนานแห่งตะกรุด ยอดเมรุ ครับ น่าบูชาและสะสม ปิดไม่แพงประกันตามกฎ

พระสมเด็จรุ่นนี้ล่ะครับที่นิยมสุดและเก๊มากที่สุด เพราะประสบการณ์ดีจริง ๆ ลป.เทียนรูปนี้เป็นศิษย์ของพระเกจิอาจารย์ชื่อดังหลายรูป แต่ที่ท่านให้ความเคารพสูงสุดคือ หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก ว่ากันว่าท่านได้วิชาจากหลวงพ่อจงมาหลายอย่างครับ
พระสมเด็จรุ่นนี้ท่านเขียนผงลบผงและปลุกเสกอย่างดีในปี ๐๖ เนื้อหาจะมีโซนเดียว วรรณะออกอมเหลือง องค์นี้พิมพ์หูบายศรี ฐานสามชั้น ปี ๒๕๐๖ ใต้ฐานฝังตะกรุด ๒ ดอก สภาพสวยมาก ตัวตะกรุดนั้นคนพื้นที่ว่าดีทาง "คงกระพัน" แบบนี้หายากเข้าไปใหญ่ครับ

ในสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากในเรื่อง พระเนื้อผง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระสมเด็จ ที่คนทั่วไปและนักสะสมพระเครื่องเสาะแสวงหากันมาก เพราะเกิดประสบการณ์กับผู้นำไปใช้เป็นที่เล่าขานกันอย่างแพร่หลาย ทั้งด้านแคล้วคลาด มหาอุด โภคทรัพย์ ที่โดดเด่นมาก คือ ด้านเมตตามหานิยม ซึ่งเป็นพุทธคุณสายพระสมเด็จโดยตรง

พล.ต.ต.เนื่อง อาขุบุตร นักสะสมพระเครื่องสายพระสมเด็จในสมัยนั้น มักจะบอกกับคนใกล้ชิดว่า...ถ้าหาพระสมเด็จวัดระฆัง ไม่ได้ พระสมเด็จหลวงปู่เทียนนี่แหละใช้แทนได้เลย

คำบอกกล่าวนี้ แสดงว่าท่านเชื่อมั่นในหลวงปู่เทียน อันเป็นผลมาจากการที่ท่านได้รู้เห็นกรรมวิธีในการสร้างว่ามีพื้นฐานแบบเดียวกับการสร้างพระสมเด็จสายวัดระฆัง นั่นคือการผสมผงวิเศษ ๕ ประการ ที่หลวงปู่เทียนท่านสำเร็จ ซึ่ง พล.ต.ต.เนื่อง อาขุบุตร ได้เห็นอภินิหารของผงที่หลวงปู่ลบด้วยตาตัวเองและยังไปบอกกล่าวให้คนอื่นๆ ได้ทราบด้วย

ผงวิเศษ ๕ ประการ คือ ผงปัถมัง ผงอิทธิเจ ผงมหาราช ผงพุทธคุณ และผงตรีนิสิงเห

คำถามก็คือ ผงวิเศษ ๕ ประการนี้ดีอย่างไร เรื่องนี้ต้องเริ่มต้นตั้งแต่ที่มาของผงว่าเกิดจากการลบอักขระเลขยันต์ตามตำรับ เพื่อการฝึกจิตให้เป็นสมาธิและสร้างความเข้มแข็งให้แก่อำนาจจิต สำหรับใช้เป็นพลังเข้าสู่วิปัสสนาญาณ

การลบผงจึงเป็นต้นทางของการมุ่งสู่การหลุดพ้นและเป็นความมหัศจรรย์ที่ทำให้เกิดผงวิเศษเป็นผลพลอยได้ ผงดังกล่าวสามารถนำมาใช้ได้ทันที โดยไม่ต้องปลุกเสกบรรจุธาตุ และเรียกอาการ ๓๒ ตามกรรมวิธีของการปลุกเสกพระเครื่อง จึงถือได้ว่าผงนี้มีชีวิตแล้วมีความศักดิ์สิทธิ์และอาถรรพณ์สูงมาก พระเกจิอาจารย์ที่ลบผงเสร็จแล้วต้องพิถีพิถันทำการเก็บรักษาอย่างดี ถ้าทำหล่นลงพื้นใครเหยียบเข้าถึงกับสติฟั่นเฟือนเป็นบ้าได้ และที่ท่านระมัดระวังมาก คือ เกรงว่าพวกลูกศิษย์ที่นอกลู่นอกทางจะขโมยผงอิทธิเจ เอาไปผสมน้ำให้ผู้หญิงดื่ม แล้วทำมิดีมิร้ายเขา

เพราะฉะนั้นผงนี้เมื่อผสมและพิมพ์เป็นพระออกมาแล้ว ก็สามารถใช้ได้เลยไม่ต้องปลุกเสกอีก ด้วยอานุภาพของผงวิเศษ ๕ ประการนี้ ได้ทำให้ พระสมเด็จ ของ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) วัดระฆัง เป็นพระเครื่องที่โด่งดังที่สุดและมีราคาค่านิยมสูงที่สุดจนคนธรรมดาทั่วไปเอื้อมไม่ถึง

มีเซียนพระผู้ใหญ่ท่านหนึ่งเล่าให้ผู้เขียนฟังถึงครอบครัวหนึ่งว่า มีลูกชาย ๒ คน คุณพ่อมีพระสมเด็จวัดระฆัง ที่รักและหวงแหนอยู่ ๑ องค์ ต่อมาคุณพ่อเสียชีวิตลงโดยไม่ได้สั่งเสียไว้ว่าใครจะเป็นผู้ครอบครองพระสมเด็จองค์นี้ พี่น้องทั้ง ๒ คนต่างอยากได้ แต่ตกลงกันไม่ได้สุดท้ายจึงใช้วิธีหักครึ่งแล้วแบ่งกัน โดยไม่สนใจว่าราคาพระจะเหลือเท่าไร ทั้งๆ ที่ถ้านำไปขายทั้งองค์แล้วแบ่งเงินกันก็จะได้ราคาสูงกว่าขายครึ่งองค์อย่างมาก

นั่นแสดงให้เห็นว่าทั้งคู่เชื่อมั่นและต้องการของดีวิเศษมากกว่าเงิน พอดีที่พระนี้เมื่อหักแล้วยังมีอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์อยู่อย่างครบถ้วน เพราะมีผงวิเศษ ๕ ประการกระจายอยู่ในองค์พระ

แต่ถ้าเป็นพระที่ไม่มีผงดังกล่าวเชื่อว่าจะเหลือแค่พลังธรรมดาของมวลสารที่เหลืออยู่ในนั้น เพราะการปลุกเสกให้แสดงความศักดิ์สิทธิ์ด้านใดด้านหนึ่งนั้นปลุกเสกในสภาพเต็มองค์

พระของหลวงปู่เทียนก็เช่นกัน ท่านจะบอกลูกศิษย์เสมอว่า พระของข้าต่อให้หักจนเหลือแค่เพียงเมล็ดงา ถ้าพวกเอ็งมีไว้ก็จะไม่ตายโหง แสดงว่าท่านมั่นใจในผงของท่านมาก

นอกเหนือจากผงวิเศษ ๕ ประการแล้ว ท่านยังสำเร็จ วิชาการลบผง ๑๒ นักษัตร อันเป็นวิชาของชาวมอญที่ตกทอดกันมาตั้งแต่โบราณ ซึ่งไม่ปรากฏว่ามีพระเกจิอาจารย์รูปใดในยุคก่อนๆ ที่วงการรู้จักมีการทำผงชนิดนี้ นี่จึงเป็นของวิเศษอันสุดยอดของหลวงปู่เทียนที่พระเกจิอาจารย์รูปอื่นๆ ไม่มี

ผง ๑๒ นักษัตร เป็นเรื่องเกี่ยวพันกับโหราศาสตร์ที่อธิบายได้ว่า มนุษย์ทุกคนบนโลกใบนี้ต้องเกิดมาในปีนักษัตรใดนักษัตรหนึ่ง และในปีหนึ่งๆ นั้นประกอบไปด้วย ๑๒ ราศี ที่มีความเกี่ยวพันกับดวงดาว อันเป็นตัวกำหนดเส้นทางชีวิตของคนคนนั้น ที่เรียกว่า “ดวงชะตา”

ด้วยภูมิปัญญาอันล้ำลึกของพระเกจิอาจารย์ที่สามารถนำเอาอำนาจพลังจิตซึ่งเป็นสิ่งทรงพลังสูงสุด มาผสมผสานกับพลังของดวงดาวที่มีอิทธิพลต่อทุกชีวิตบนโลก โดยทำให้เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีอานุภาพในการหนุนส่งดวงชะตาในช่วงเวลาที่รุ่งโรจน์และปกป้องไม่ให้ตกต่ำในยามที่ดวงไม่ดี ต้องถือว่านี่คือวิทยาการขั้นสูงสุดของการสร้างวัตถุมงคล ด้วยเหตุนี้ผู้ที่จะศึกษาวิชาลบผง ๑๒ นักษัตร จะต้องเป็นผู้มีญาณสมาธิขั้นสูงและมีสติปัญญาล้ำเลิศจึงจะศึกษาได้สำเร็จ

สำหรับ หลวงปู่เทียน ท่านศึกษาค้นคว้าวิชานี้จากตำราโบราณที่อาจารย์มอบให้จนสำเร็จด้วยตัวเอง แสดงให้เห็นว่าท่านไม่ใช่พระเกจิอาจารย์ระดับธรรมดา วัตถุมงคลของท่านทุกองค์จะมีผง ๑๒ นักษัตรผสมอยู่ด้วยจึงมีอานุภาพในการคุ้มครองดวงชะตา เมื่อแขวนไปเรื่อยๆ จะทำให้ดวงดี คนเราเมื่อดวงดีแล้วทุกอย่างก็จะดีตาม ทำให้การดำเนินชีวิตราบรื่น หากติดขัดในเรื่องใดก็ขอให้ท่านช่วยได้ ลักษณะเช่นนี้เป็นความศักดิ์สิทธิ์เช่นเดียวกับวัตถุมงคลขององค์เทพ คือ ขอปุ๊บได้ปั๊บ

ตลอดระยะเวลา ๕๐ ปีที่ผ่านมา วัตถุมงคลของ หลวงปู่เทียน ราคาไม่สูงมาก แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่ศักดิ์สิทธิ์ หากเกิดจากการมองข้ามของนักสะสมพระที่ไม่ได้ศึกษาถึงแก่นแท้ของกรรมวิธีในการสร้างพระ และความสามารถในเรื่องวิชาอาคมของพระเกจิอาจารย์ ทำให้เล่นพระไปตามกระแสที่ปลุกปั่นกันขึ้นมา ทำให้พระที่สร้างโดยพระเกจิอาจารย์ที่มีความเข้มขลังและสร้างตามกรรมวิธีโบราณที่ถูกต้อง กลับเป็นพระที่ราคาถูกกว่าพระที่ปั๊มจากโรงงาน ยิ่งราคาไม่สูงก็ยิ่งคิดว่าไม่ศักดิ์สิทธิ์เพราะไปยึดหลักการขายสินค้าที่มักกล่าวกันว่า ถูกและดีไม่มีในโลก

ณ เวลานี้ อยากจะบอกว่าถูกและดียังมีในโลกก็จะไม่บอกว่าถูกได้อย่างไร พระของหลวงปู่เทียนราคาหลักพันจนถึงหมื่นกว่าบาท แต่อานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ไม่แพ้ และอาจจะดีกว่าพระราคาหลักแสนหลักล้านด้วยซ้ำ ที่กล้าพูดเช่นนี้เพราะได้พบกับอภินิหารมาด้วยตัวเอง

อยากเรียนว่า ชาวจังหวัดปทุมธานี เป็นผู้โชคดีที่เกิดมาในดินแดนอันอุดมสมบูรณ์ไปด้วย ดอกบัว ดอกไม้จากสวรรค์ เป็นสัญลักษณ์ของศาสนาพุทธและเป็นถิ่นกำเนิดของ หลวงปูเทียน ปุบผธมฺโม แห่งสำนักวัดโบสถ์ พระเกจิอาจารย์ผู้มีวิชาการสร้างวัตถุมงคลอันสุดยอด วัตถุมงคลของท่านไม่เป็นสองรองใครในแผ่นดินนี้
ราคาเปิดประมูล100 บาท
ราคาปัจจุบัน1,000 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ100 บาท
วันเปิดประมูล - 25 ต.ค. 2565 - 19:10:29 น.
วันปิดประมูล - 26 ต.ค. 2565 - 20:48:55 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลTzsamsak (705)


(0)
ข้อมูลเพิ่มเติม 1 - 25 ต.ค. 2565 - 19:11:49 น.



นอกจาก พระสมเด็จของหลวงปู่เทียนจะมีชื่อเสียงโด่งดัง และมีพุทธคุณยอดเยี่ยมแล้ว ยังมีตะกรุดสาริกาขนาดจิ๋ว ชนอดใส่ตาอยู่ได้ทั้งวัน โดยไม่มีการระคายเคืองตา ท่าจะทำตะกรุดนี้ ด้วยมือของท่านเองอีกเช่นกัน ดังนั้น พระสมเด็จฯ ของท่านนอกจากจะมีเนื้อเยี่ยมยอดด้วยพุทธคุณแล้ว ทุกองค์ยังมีตะกรุดฝังอยู่ใต้องค์พระ 2 ดอก เพิ่มอานุภาพยิ่งขึ้นอีกด้วย
พระเครื่องรุ่นสำคัญๆ ของหลวงปู่เทียน มีดังต่อไปนี้
1. พระสมเด็จพุฒาจารย์ หรือพระสมเด็จรุ่นพิเศษ (รุ่น พ.ศ. 2506) เป็นพระเนื้อผงอิทธิเจ ปัถมัง ด้านหน้าเป็นรูปพระนั่งสมาธิอยู่บนฐาน 3 ชั้น ภายในซุ้มโค้งรูปเล็บมือแบบเดียวกับพระสมเด็จฯด้านหลังเป็นรูปนูนต่ำหลวงปู่เทียน(พระครูบวรธรรมกิจ) ท่านั่งสมาธิบนฐานภายในซุ้มกรอบกนกได้ฐานมีข้อความว่า “บวรธรรมกิจ” เป็นบรรทัดแรก ส่วนบรรทัดรองลงมาเป็นเลข พ.ศ. 2506 ใต้องค์พระขอบด้านล่าง มีฝังตะกรุด 2 ดอก เป็นตะกรุดสาริกา เมตตามหานิยมแบบใส่ตาได้หลายๆวันไม่ระคายเคือง นั่นเอง ขนาดองค์พระมีความกว้างประมาณ 3.8 ซ.ม. สูงประมาณ 5.5 ซ.ม. ความหนาประมาณ 0.8 ซ.ม.
พระสมเด็จพุฒาจารย์ รุ่นพิเศษ พ.ศ. 2506 นี้ พวกลูกศิษย์ และผู้ที่เคารพนับถือในองค์หลวงปู่เทียนได้นิมนต์ให้ท่านสร้างขึ้นเนื่องในงานกวนข้าวทิพย์ และหล่อรูปเหมือน และฉลองพัดยศเป็นพระครูชั้นเอก เมื่อวันที่ 2 - 3 มีนาคม พ.ศ. 2506 โดยมีนายจรัส ธารีสาร ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีขณะนั้น เป็นประธานฝ่ายฆราวาสและมีท่านเจ้าคุณธรรมานุสารี รักษาการเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ขณะนั้นเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ เพื่อให้จองกันเองในงานนี้ จึงตกลงเป็นมูลค่า เพื่อนำไปบูชาองค์ละ 50 บาท และได้นำเงินนี้มาใช้เป็นค่าหล่อรูปเหมือนเท่าองค์จริงของหลวงพ่อ ซึ่งขณะนี้ประดิษฐ์ฐานอยู่ที่ด้านหน้าโบสถ์ ของวัดโบสถ์
สำหรับพุทธคุณของสมเด็จพุฒาจารย์ รุ่นพิเศษนี้จากการบอกเล่าของ ร.ต.ท.ฟ้อย ธนะนิมิตร แห่งสถานีตำรวจภูธรเมืองปทุมธานีว่า คนได้ทำการทดลองเอาไม้ขีด 2 กล่อง วางห่างกัน 4 นิ้ว แล้วเอาพระสมเด็จพุฒาจารย์รุ่นพิเศษของหลวงปู่เทียนวางละตรงกลาง จากนั้นเอาไฟจุดแต่จุดเท่าไหร่ก็ไม่คิด ทำอย่างนี้สลับกันถึง 2 ครั้ง ต่อหน้าผู้กำกับ พ.ต.อ.พิชัย สุคันธวานิช ขณะนั้น การทดลองจุดไฟนี้ผู้บังคับกอง พ.ต.ต.สละ พูนศิริ ก็ได้ทำการทดลองจุดไฟด้วยวิธีเดียวกับ ร.ต.ท.ฟ้อย ธนะนิมิตร ต่อหน้านายแบบอัยการจังหวัดปทุมธานีขณะนั้น ไฟก็ไม่คิดอีกเช่นกัน
พระสมเด็จพุฒาจารย์ รุ่นพิเศษ ของหลวงปู่เทียนนี้นอกจากจะกันไฟได้แล้ว ยังมีพุทธคุณในทางแคล้วคลาด ผู้กำกับคนก่อนของสถานีไปโดนรถชนมา ก็ไม่เป็นอะไรทั้งๆ ที่รถเข้าชนตรงด้านที่นั่งพอดี ซึ่งปรากฏว่ารถที่ถูกชนนี้เสียหายยับเยิน ร.ต.ต.อำนวย เจริญสุข นั่งจักรยานยนต์ซ้อนท้ายนายเคียง ถูกรถบรรทุกชนอย่างจัง ทั้งคู่กระเด็นไป 10 วา กลับไม่เป็นอะไรเช่นกัน ในทางคงกระพัน เถ้าแก่หยวนจากโรงฆ่าสัตว์ปทุมธานี ได้เอาพระรุ่นนี้ไปทดลองยิง แต่กลับยิงไม่ออกทั้ง 6 นัด แต่พอหันไปยิงทางอื่น กลับยิงออกทุกนัด
ด้วยเหตุนี้เอง นายจรัส ธารีสาร ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีขณะนั้น จึงได้มีพระสมเด็จพุฒาจารย์ รุ่นพิเศษ ของหลวงปู่เทียนไว้บูชาถึง 24 องค์ ผู้กำกับกองมีถึงพิเศษ ของหลวงปู่เทียนไว้บูชาถึง 24 องค์ ผู้กำกับกองมีถึง 12 องค์ ผู้บังคับกองมีถึง 9 องค์ เถ้าแก่หยวนมีถึง 14 องค์ และนายตุ๊ ลูกชายเถ้าแก่หยวนเองก็มีถึง 14 องค์เช่นกัน

เครดิตร:ขอขอบคุณ ข้อมูลอ้างอิง โรงเรียนคณะราษฎร์บำรุงปทุมธานี


ข้อมูลเพิ่มเติม 2 - 25 ต.ค. 2565 - 19:12:42 น.



พระสมเด็จยุคต้นๆ ของท่านหลวงปู่เทียนมักจะมีเนื้อหาที่เข้มข้น และมีความเข้มขลังเป็นที่ประจักร แม้แต่ พล.ต.ต เนื่อง อาขุบุตร นักเล่นพระรุ่นเก่าที่ชอบสะสมแต่พระเบญจภาคี และพระกรุเก่าๆ ยังพูดว่าถ้าไม่มีสมเด็จวัดระฆังแล้วละก็ให้ใช้สมเด็จของหลวงปู่เทียนแทนเพราะผงวิเศษที่ท่านลบนั้นยักคิ้วได้ เวลาหลวงปู่จะทำผงวิเศษท่านจะเขียนอักขระเลขยันต์และชักยันต์เป็นรูปคนขึ้นมามีปากมีคิ้ว คำว่าผงของหลวงปู่เทียนยักคิ้วได้ เพราะผงที่ท่านกำลังเขียนอยู่นั้นเคลื่อนที่ได้นั้นเอง หลวงปู่เทียนเป็นผู้ที่มีจิตสมาธินิ่งมาก สามารถเขียนผงทะลุกระดานชนวนได้เพียงอึดใจ มูลเหตุที่ท่านหลวงปู่เทียนสร้างพระสมเด็จก็เนื่องจากลูกศิษย์ของท่านคือขุนวิเศษภักดีได้เคยเล่าถึงกรรมวิธีในการสร้างพระสมเด็จของท่านสมเด็จโตเพราะบิดาของท่านเคยเป็นลูกศิษย์ของสมเด็จโตและมีส่วนร่วมในการสร้างพระสมเด็จแทบทุกขั้นตอนและได้บอกว่าพระสมเด็จนั้นสำเร็จขึ้นด้วยผงวิเศษทั้ง5ประการ หลวงปู่เทียนท่านจึงคิดที่จะทำขึ้นบ้างเพราะท่านก็สำเร็จวิชาลบผงวิเศษทั้ง5ประการและผง12นักษัตรที่ปัจจุบันได้หมดการสืบทอดไปแล้ว แต่หลวงปู่เทียนได้ดัดแปลงโดยการใช้พระกรุเก่าที่ชำรุดแตกหักแทนปูนเปลือกหอยเพราะสมัยก่อนมีพระกรุที่ชำรุดแตกหักตามวัดร้างจำนวนมากและช่วงสงครามทางรัฐบาลได้ให้ทางวัดเปิดกรุนำพระเครื่องมาแจกบรรดาลูกหลานที่ต้องถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารซึ่งในกาลนั้นมีพระชำรุดจำนวนมากที่ถูกทิ้งอยู่ตามวัดท่านจึงให้ลูกศิยษ์นำมาสร้างเป็นองค์พระขึ้นใหม่จะได้กุศลแรง ดังนั้นพระเครื่องยุคแรกของท่านจึงมีเนื้อหาที่เข็มข้นคล้ายขนมตุบตั๊บเช่นพิมพ์ก้างปลาหลังประทุน พิมพ์อกวี พิมพ์วัดเกศ การปลุกเสกของท่านก็ไม่ธรรมดาครับต้องดุฤกษ์ยามก่อนและเตรียมพิธีปลุกเสกไม่แตกต่างจากการสร้างพระกริ่งของสังฆราชแพเลยเพียงแต่ทำแบบวัดบ้านนอกไม่มีโต๊ะตั้งเตียงวางกันในถาดที่พื้นลานวัดปลุกเสกแบบโบราณที่เรียก'พิธีโพธิกาศ'เอาแค่เตรียมงานพิธีก็กินขาดพระใหม่ๆสมัยนี้แล้วครับท่านส่วนมวลสารไม่ต้องพุดถึงแค่ตำรวมกันกดเป็นพิมพ์พระก็ไม่ต้องปลุกก็ใช้ได้แล้ว ส่วนเหรียญกว่าจะทำต้องเอาแผ่นจารยันต์108ลงผสมก่อนที่จะนำโลหะไปรีดเป็นแผ่นดดยต้องมีการดูฤกษ์ยามทุกครั้งถ้าโรงงานปั๊มเกินบล็อกจะพังไม่ก็ตัวตัดพัง ส่วนเนื้อผงลูกศิษย์เคยแอบนำบล็อกไปกดปรากฎว่าถ้าบล็อกไม่พังคนที่กดก็มักจะพังครับพระของท่านจึงแรงจริง เพราะท่านเคยพูดว่าพระเครื่องของข้าทุกองค์ทุกชิ้นข้าตั้งใจทำถ้าเองเป็นคนดีต่อให้มีแค่เศษแตกหักของพระข้าแค่เม็ดงาก็ยังคุ้มครองป้องภัยให้เองได้แต่ถ้าประพฤติชั่วมีพระเต็มองค์พระก็จะแตกหักเสื่อมลงใช้การไม่ได้ รุ่นพี่ของเพื่อนผมพกตะกรุดไปเที่ยวผู้หญิงแขวนตะกรุดไว้ขากลับตะกรุดหัก2ท่อน ลูกน้องเคยโดนยิงจังๆแบบหมดโม่ไม่ออกสักนัดพ่อออกมาช่วยยิงสวนไปเปรี้ยงเดียวคู่อริตายคาที่แต่พอไปเที่ยวผูหญิงโดยไม่เอาตะกรุดออกปรากำว่าตะกรุดที่ถักด้วยเชือกกลับคลายตัวจนเชือกหลวมนี่และครับท่านความศักดิ์สิทธิ์ของท่านที่แม้แต่เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินยังต้องโปรดให้เข้าเฝ้าเป็นการส่วนพระองค์


 
ราคาปัจจุบัน :     1,000 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     100 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    เสาร์ห้าบารมีพ่อ (1.7K)

 

Copyright ©G-PRA.COM