รูปหล่อโบราณ ท่านท้าวเวสสุวัณ หลวงพ่อสนิท วัดลำบัวลอย อำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก ดำเนินการจัดสร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๖ เนื่องในงานเททองหล่อพระประธานในพระอุโบสถวัดลำบัวลอย ใช้กรรมวิธีหล่อแบบโบราณ ปั้นหุ่นเทียนเพื่อขึ้นรูป แล้วต่อชนวนหล่อเป็นช่อ มีด้วยกัน ๒ เนื้อ คือ เนื้อทองเหลือง และเนื้อตะกั่วอาบทองแดง จำนวนการสร้างน้อยมาก และไม่มีในบันทึก ได้รับการปลุกเสกจากหลวงพ่อสนิท ในคราวเดียวกันทั้ง ๒ เนื้อ
องค์นี้เป็นเนื้อตะกั่วอาบทองแดง ( ใช้ฉนวนที่เหลือจากการเททองหล่อพระประธาน รวมกับตะกรุด ) เนื้อนี้เป็นเนื้อที่เทนำฤกษ์ หล่อลองพิมพ์ ก่อนทำการเทหล่อเนื้อทองผสม แท้ดูง่าย ไม่ผ่านการใช้บูชามาก่อน เจ้าของเดิมเก็บรักษาไว้ดีมาก สภาพเก็บเก่า ผิวเดิมๆ มีฝุ่นจับตัวเป็นฝ้าบางๆตามผิวและซอกๆ ขอบข้างหรือตะเข็บมีการเก็บงานด้วยตะไบฟันหยาบ และใต้ฐานมีรอยตะไบหยาบซึ่งเป็นที่นิยม ดูขลัง และน่าเกรงขามมากครับ เนื้อตะกั่วอาบทองแดง จะพบเจอได้น้อยกว่าเนื้อทองเหลืองหลายเท่า เพราะเป็นการเทหล่อลองพิมพ์เพียงไม่กี่องค์ สมัยนั้นโดนกรรมการวัดเก็บไปจนหมด เหลือถึงคนทั่วไปไม่กี่องค์ ท่านใดที่ยังหาของวัดสุทัศน์ฯไม่ได้ ลองหาของหลวงพ่อสนิทมาบูชาแทนกันได้ ด้วยสนนราคาที่สบายกระเป๋ากว่ากันครับ
พุทธคุณ : แค้ลวคลาดคงกระพัน, ป้องกันภูผีปีศาจ, ป้องกันศาสตราวุธต่างๆ และบันดาลให้เกิดโชคลาภ ร่ำรวย
คาถาบูชาท้าวเวสสุวัณ
จุดธูป ๙ ดอก และกุหลาบแดง ๙ ดอก ตั้งนะโม ๓ จบ ระลึกถึง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ คุณบิดา มารดา ครูบาอาจารย์ อิติปิโสภะคะวา ยมมะราชาโน ท้าวเวสสุวรรณโณ มรณังสุขัง อะหังสุคะโต นะโมพุทธายะ ท้าวเวสสุวรรณโณ จตุมหาราชาชิกา ยักขะพันตาภัทภูริโต เวสสะ พุสะ พุทธัง อรหัง พุทโธ ท้าวเวสสุวรรณโณ นะโมพุทธายะ
ด้านประสบการณ์
เมื่อคราวชายแดนไทยแถวตาพระยายังไม่สงบ ทหารค่ายกองกำลังบูรพา ยิงต่อสู้กับข้าศึก มีจ่าทหารนายหนึ่งโดนยิงล้มลง แต่กลับลุกขึ้นได้อีก เสื้อผ้าขาดเป็นรู เมื่อการรบเสร็จสิ้น เพื่อนๆต่างแปลกใจ และขอดูของดี ที่คอปรากฏว่าไม่มีอะไรที่คอเลย จ่าทหารนายนั้นบอกว่าไม่ได้ห้อยพระ แต่มีท้าวเวสสุวัณเนื้อตะกั่วที่พี่ชายให้มาเพียงองค์เดียวเท่านั้น แค่นั้นล่ะครับ วัตถุมงคลของท่านจึงเป็นที่รู้จักของเหล่าทหารและคนทั่วไป แต่หลวงพ่อสนิทท่านดังแบบเงียบๆมานานแล้วครับ
ประวัติโดยย่อหลวงพ่อสนิท
หลวงปู่สนิท วัดลำบัวลอย อำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก นามเดิมของท่านคือ สนิท นามสกุล มีพงษ์ เกิดเมื่อวันที่ ๒๘ เมษายน ๒๔๖๘ (ในแผ่นดินรัชกาลที่ 6) ณ บ้านบางกุ้ง ต.บางกุ้ง อ.ศรีมหาโพธิ์ จ.ปราจีนบุรี ท่านอุปสมบทเมื่ออายุ ๒๓ ปี ได้รับฉายาว่า ยะสินธโร
ประวัติด้านการศึกษาพระเวทย์
หลวงพ่อสนิทเป็นพระอริยสงฆ์ที่รักสันโดษ ก่อนสังขารจะร่วงโรย ท่านได้ออกธุดงค์เป็นประจำทุกปี เนื่องจากหลวงพ่อสนิทท่านสนใจทางไสยศาสตร์และโหราศาสตร์ จึงได้เสาะแสวงหาอาจารย์ เพื่อร่ำเรียนคัมภีร์ เลขยันต์ เวทมนต์ คาถา อาคมขลัง สรรพวิยาคุณต่างๆ
หลวงพ่อดำ วัดกุฎิ เกจิอาจารย์ชาวเขมรผู้เรืองวิทยาคม เป็นเจ้าตำรับผู้สร้าง พระปิดตา เนื้อตะกั่วดำ พิมพ์ปักเป้า อันลือชื่อ เรียนด้านการป้องกันพิษยาสั่ง และคงกระพันชาตรี ด้านสรรพคุณไสย ด้านถูกกระทำย่ำยีจากศัตรู รู้รอบด้านการแก้พิษต่างๆ ยาเบื่อ ยาเมา และยาสั่ง จนท่านชำนาญแตกฉาน
อาจารย์เส็ง ซื่อสัตย์ วัดสันทรีย์ หลวงพ่อสนิทท่านมีศักดิ์เป็นหลานของ พระอาจารย์เส็ง ซื่อสัตย์ ซึ่งท่านเป็นเจ้าอาวาสรูปแรกของวัดสันทรีย์ มาตั้งแต่ปี ๒๔๓๕ จนถึง ๒๔๗๖ ต่อมาท่านได้ลาสิกขาบท เมื่อตอนหลวงพ่อสนิท มาฝากตัวร่ำเรียนวิชาจระเข้โทนที่วัดสันทรีย์นั้น อาจารย์เส็งได้ลาสิกขาบทไปแล้ว ท่านได้ประสิทธิ์ประสาทวิชาให้แก่หลวงพ่อสนิทจนหมดสิ้น หลวงพ่อสนิทได้รับการถ่ายทอดวิชาจนสำเร็จ สามารถเสกจระเข้จากไม้ และหิน ให้มีชีวิตได้
ท่านจึงสร้างจระเข้โทน เนื้อชินตะกั่วสีดำ และสร้างจระเข้ปางนารายณ์อวตารหลังลูกศรนารายณ์ (จระเข้รุ่นจันทร์เพ็ญ) ในเวลาต่อมา
พระครูอุทัยธรรมธารี (หลวงพ่อตี่ สุริยวงศ์สวัสดี) วัดท้าวอู่ทอง จ.ปราจีนบุรี ท่านได้เรียนวิชาแพทย์แผนโบราณ
พระอาจารย์ทองดำ วัดโคกหม้อ จ.นครสวรรค์ เรียนจนสำเร็จวิทยาคมต่างๆ ทั้งตำรายาโบราณการสูญฝี และรักษาโรคภัยต่างๆจนแตกฉานและชำนาญ
ท่านไม่สะสมสิ่งของ วัตถุ หรือทรัพย์สินต่างๆ มีเมตตาสูง ไม่เคยแยกแยะว่าผู้มาหาจะยากดีมีจนอย่างไร ท่านปฏิบัติต่อทุกคนเท่าเทียมกันหมด ท่านมีความเชี่ยวชาญในศาสตร์หลายแขนง ในอดีตท่านรักษาผู้ป่วยที่มาพึ่งบารมีทั้งที่ป่วยจากโรคภัยไข้เจ็บและที่ป่วยจากการโดนคุณไสยต่างๆ ผู้ที่เคยไปกราบหรือพึ่งบารมีหลวงพ่อจะสามารถสัมผัสจิตอัศจรรย์ของหลวงพ่อได้ด้วยตนเอง อาทิเช่น การรู้ล่วงหน้าว่า จะมีใครมาหา มากี่คน มาหาด้วยเรื่องอะไร เป็นต้น นอกจากนี้หลวงพ่อยังรักษาสัจจะวาจาเท่าชีวิต ดังนั้นคำพูดทุกคำที่ออกจากปากท่านจึงเป็นจริงดังวาจาสิทธิ์ของพระร่วง ท่านพูดอะไรให้ฟังแล้วสิ่งนั้นจะปรากฏเป็นจริงเสมอ
หลวงพ่อสนิท มรณภาพเมื่อวันที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๔๒ สิริอายุรวม ๗๔ ปี ๕๑ พรรษา สรีระศพของท่านแต่เดิมเก็บรักษาในโลงแก้ว เนื่องเพราะสรีระของท่านไม่เน่าเปื่อย และเส้นเกศาที่เคยปลงเก็บไว้ก็แปรสภาพเป็นพระธาตุอย่างน่าอัศจรรย์ ที่น่าเสียดายคือในปัจจุบันสรีระของหลวงปู่ได้มีการพระราชทานเพลิงศพไปแล้ว |
|
