(0)
((รุ่น2)) เหรียญพระครูอุดมวรเวท (หลวงปู่ สังข์ สุริโย) วัดนากันตม อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ท่านเป็นศิษย์ผู้พี่ หลวงปู่เพ็ง จันทรังษี






รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่อง((รุ่น2)) เหรียญพระครูอุดมวรเวท (หลวงปู่ สังข์ สุริโย) วัดนากันตม อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ท่านเป็นศิษย์ผู้พี่ หลวงปู่เพ็ง จันทรังษี
รายละเอียดประวัติหลวงพ่อสังข์
นามเดิมว่า สังข์ นามสกุล สดับศรี เกิดเมื่อ 30 มกราคม 2451ที่บ้าน คำเมย ตำบล. ดูน อำเภอ กันทรารมย์ จังหวัด ศรีสะเกษ คุณพ่อ ชื่อ เหลา คุณ แม่ชื่อ สิงห์ สดับศรี มีพี่น้องด้วยกัน 4 คน หลวงพ่อ สังข์ท่านเป็นบุตรคนโต พ่อแม่ของท่าน ประกอบอาชีพทำนาทำไร่ ต่อมาครอบครัวของท่านได้ย้ายมาอยู่มี บ้าน นากันตม หลังจากหลวงพ่อได้บวชเป็นพระสงฆ์แล้ว เมื่อเติบโตเข้าเรียนได้ก็เรียนหนังสือที่วัด จนอ่านออกเขียนได้พอจบก็ช่วยก็ช่วยเหลือพ่อแม่ของท่านประกอบอาชีพในการทำไร่ทำนาจนท่านอายุได้ 17 ปี พ่อแม่ของท่านก็พาไปฝากเจ้าอาวาสให้ท่านบวชเป็นสามเณร ด้วยตอนท่านอายุ 14 ปี ท่านป่วย พ่อแม่ของท่านได้บนเอาไว้ว่า ถ้าหายจากโรคจะพาไปบวชเพราะตอนนั้นท่านเกือยจะถึงแก่กรรมแล้วด้วยพาไข้ป่า ในที่สุดก็หายจึงพาไปบวชเป็นสามเณร บวชอยู่สองปีก็ลาสึกออกมาช่วยเหลือพ่อแม่ของท่านประกอบอาชีพทำนา

ชีวิตในช่วงนี้ท่านกลับหันมาสนใจในด้านวิชาอาคม วิชาทางด้านคงกระพันชาตรี ทางมหานิยม แต่ในที่สุดท่านก็พบความจริงคะ อนิจจัง แต่ก็พยายามเสาะหาพระอาจารย์เล่าเรียนได้มาเหมือนกัน แต่ไม่มากมายอะไร คิดว่าเมื่อบวชเรียนแล้วจะก็หาพระอาจารย์ที่ดีขอเรียนวิชาเอาไว้ให้จงได้ จนท่านมีอายุครบจึงได้บวชเป็นพระที่วัดบ้านบก อำเภอกันทราภิรมย์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งมีท่านพระอาจารย์โส เป็นพระอุปัชฌาย์ ภายหลังอุปสมบทได้รับฉายาว่า สุริโย? ศึกษาธรรมะ ปฎิบัติรับใช้พระอาจารย์โสอยู่สามพรรษา จึงเดินทางไปเรียนวิชากับพระอาจารย์อ้วน โสภโณ วัดหนองดินดำ พระอาจารย์อ้วนรูปนี้ ดังที่บอกไว้แต่แรกแล้วว่าเป็นพระที่เรืองวิชามาก สามารถเดินบิณฑบาตได้ไกลๆ
ในปี พ.ศ. 2478 ท่านเดินทางไปสร้างวัดนากันตม แต่ก็ยังไปหาพระอาจารย์อ้วนเสมอๆ คอยช่วยงานก่อสร้างและซ่อมแซมวัดหนองดินดำจนสำเร็จสำหรับที่วัดนากันตมนั้น ท่านกสร้างของท่านตลอดมา และที่สำคัญมากคือ ท่านได้ทำการปลูกต้นไม้นานาชนิดที่ให้ผลผลิต มีทั้งมะม่วงพันธุ์ต่างๆ มะพร้าว น้อยหนา มะปราง ที่ใครรับประทานกันได้ เมื่อออกผลมาแล้วต้องเก็บให้พระฉันก่อนแล้วก็แบ่งปันให้ชาวบ้านไปรับประทาน กัน และยังแนะนำให้ชาวบ้านได้ปลูกกันทุกครอบครัว เพื่อจะได้ผลไว้ให้ลูกหลานได้รับประทาน

ในยามว่างจากการงานการก่อสร้างท่านจะเดินธุดงค์ออกไปหาที่สงบเจริญภาวนา กรรมฐานในย่านกันทรลักษณ์ เขาพระวิหารแถบสุรินทร์ ท่านได้พบคนมีวิชาทดลองเสมอและท่านก็สามารถแก้ไขได้ เคยมีชาวบ้านออกไปหาของป่าหลงป่าสามวันหาทางออกไม่ได้หลวงพ่อสังข์ท่านได้พา ออกมา ท่านบอกว่า แถบนั้นทีหล้งอย่าเข้าไป ใต้พื้นดินมันมีของอาถรรพ์ผีแรงมาก ใครไปดีก็ดีไป ใครไม่ดีบุญเก่าไม่มีมันเอามึงตายแน่ ชาวบ้านที่หลวงพ่อพาออกมาพูดกันว่า เขาหลงป่าอยู่สามวันไม่ได้กินข้าวเลย แต่หลวงพ่อท่านอยู่ได้โดยที่ไม่ต้องฉันข้าว แสดงว่าท่านต้องเป็นผู้วิเศษ เป็นผู้สำเร็จ ตอนท่านพาชาวบ้านออกจากป่านั้นท่านได้ปัสสาวะที่โคนกอไผ่ใกล้ทางเดิน มีช้างป่าติดตามมาโขลงใหญ่ แต่พอถึงต้นไผ่กอนั้นมันหลีกทางไปและไม่ติดตามเลย ตอนหลังมีการทำถนนใกล้ทางเดินนั้น ชาวบ้านจำได้ว่าท่านเคยปัสสาวะที่โคนไผ่ ต้นไผ่กอนั้นขึ้นมาเยอะ แต่ที่น่าอัศจรรย์มากคือ เป็นยอดด้วนท่านได้สั่งให้ชาวบ้านไปตัดไผ่ยอดด้วนนั้นมา แล้วท่านก็ให้ชาวบ้านตัดขนาดต่างๆ กันทำตะกรุด โดยการที่หลวงพ่อเป็นผู้จาระอักขระต่างๆ แล้วใครมาขอถึงจะได้ ตอนไปขอต้องมีดอกไม้ธูปเทียนเงินค่าครูหกสลึง ตะกรุดไผ่ยอดด้วนนี้มีคุณวิเศษมากทางคงกระพันชาตรี ทางป้องกันอันตราย ทั้งมหานิยม นอกจากไผ่ด้วนแล้วยังมีไผ่ฟ้าฝ่ากอ เมื่อฟ้าผ่ากอไผ่จะไหม้ แต่จะมีต้นไผ่ขึ้นมา ท่านก็จะไปดูแล้วให้ชาวบ้านตัดมาทำตะกรุดเหมือนกัน เหมือไผ่ยอดด้วน ของขลังที่สร้างชื่อเสียงให้หลวงพ่อดังอย่างมากมีหลายอย่างด้วยกัน กุมารทองของท่านดังและขลังไม้แพ้หลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดสามง่าม นครปฐม เลยครับ และอีกอย่างหนึ่งคือ น้ำมันแก้ว ท่านสกัดจากว่านหลายชนิดเคี่ยวจนใสและหอม ท่านเอามาเสกจนเดือดและใช้ลงกระหม่อม ลงหน้าผาก ลงที่หลังมือ เมื่อลงเสร็จแล้วท่านจะบอกให้กลับบ้านทันที หากต้องการอะไรหรือมีธุระอะไรให้ไปพบวันอื่น น้ำมันแก้วของท่านมีคุณวิเศษอย่างมากในด้านแคล้วคลาดอันตราย ทางเหนียว ทางเมตตา ไปไหนจะไม่มีอันตราย

วัวธนูของหลวงพ่อก็ดังไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า หลวงพ่อน้อย วัดศีรษะทอง นครปฐม ตอนหังศิษย์ของหลวงพ่อน้อยท่านก็เป็นพระชาวลาวเหมือนกันเลย หลวงพ่อน้อยท่านก็เป็นพระชาวลาวเหมือนกัน อีกทั้งการขับไล่ภูตผีที่สิงคน คนถูกคุณไสยไปรักษากับท่านจะหายทุกราย นี่แหละชื่อเสียงของท่าน
ราคาเปิดประมูล250 บาท
ราคาปัจจุบัน1,200 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ50 บาท
วันเปิดประมูล - 03 ธ.ค. 2566 - 12:55:43 น.
วันปิดประมูล - 04 ธ.ค. 2566 - 16:52:29 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลhooligan (6.4K)


(0)
ข้อมูลเพิ่มเติม 1 - 03 ธ.ค. 2566 - 13:00:02 น.

หลวงพ่อได้รับนิมนต์ไปร่วมงานปลุกเสกพระเครื่องที่วัดกัลยาณ์ ฝั่งธนบุรี เมื่อปี พ.ศ 2500 มีพระอาจารย์ดังๆ จากทั่วประเทศได้กว่าพันรูป นอกจากพิธีนี้แล้วพิธีในกรุงเทพฯ อีกหลายพิธีที่ท่านได้รับนิมนต์ให้ไปร่วม แม้แต่หลวงพ่อปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลียังนับถือท่านเลย ยกย่องเสมอๆ อีกทั้งหลวงปู่เทียน วัดโบสถ์ จังหวัดปทุมธานี ก็ยกย่องท่านหลวงพ่อลมูล วัดเสด็จ ศิษย์ของหลวงพ่อเทียน ท่านได้พบหลวงพ่อสังข์ในงานปลุกเสกพระเครื่องที่วัดระฆังและอีกหลายวัดเห็น อภินิหารของท่านและเคยพบพระลองวิชากับท่าน องค๋หนึ่ง พระรูนั้นลองวิชาหลวงพ่อสังข์ แต่ทำอะไรหลวงพ่อท่านไม่ได้ ซ้ำร้ายต้องเข้าไปขอขมาท่าน ทำให้ครั้งนั้นหลวงพ่อลมูลต้องเข้าไปกราบฝากตัวเป็นศิษย์ของท่านและติดตาม ท่านไปถึงวัดนากันตม ศรีษะเกษ ได้ขอเรียนวิชาการทำกุมารทองและทางด้านเมตตามหานิยม ทางสีผึ้งและหลวงพ่อลมูลท่านได้สร้างพระเครื่องเนื้อผงเป็นพระสมเด็จพิมพ์ ใหญ่สามชั้น ด้านหน้าเหมือนกันคือตอนนั้นได้สร้างถวายหลวงปู่เทียน ถวายหลวงปู่โต๊ะและหลวงพ่อสังข์ เนื้อเหมือนกัน ด้านหน้าเหมือนกันผิดกันแต่ด้านเหลังเท่านั้นเอง พระเครื่องที่หลวงพ่อ ลมูลสร้างขั้นนั้นภายหลังได้รับความนิยม คนเดินทางไปขอกับหลวงพ่อท่านบอกว่าไม่มีแล้ว ให้คนไปจนหมดตั้งแต่สมัยที่พระเครื่องยังไม่มีราคาค่านิยมอะไร จะให้องค์ละหมื่นสองหมื่นบาทท่านก็ไม่มี

ของขลังที่วิเศษอีกอย่างหนึ่งคือ ลูกประคำ ลูกประคำของท่านสร้างขึ้นจากผงพุธคุณ เอาผงต่าง ๆ ร่วมทั้งว่านยา ว่านทั้งร้อยแปดมาบดผสมจนละเอียด เขียนสูตรเลขยันต์ต่างๆ แล้วปั้นเป็นลูกกลมๆ เวลาปั้นจะว่าคาถาไปด้วยตลอดเวลา

เวลาท่านมากรุงเทพฯ ไม่ว่าจะมางานปลุกเสกพระเครื่อง หรือใครนิมนต์มาก็ตาม หลวงพ่อสังข์ท่านมักเดินทางไปพักที่วัดสระเกศ กุฎิของท่านพระอาจารย์ บุญมี ปภัสโร ท่านเป็นศิษย์ของหลวงพ่อสังข์ จะเป็นมีดหมอลูกประคำ เหล็กจาร ด้ามทำด้วยงาช้างลงอักขระคาถาอย่างดีก็อยู่ที่ท่าน รวมทั้งไม้ขับผี ปีศาจ เต่าภายในบรรจุสีผึ้ง วัวธนู ตัวครูและอีกหลายตัวคาดว่าจะหมดไปนานแล้วเหลือแตตัวครูพระอุปคุต

พระเครื่องและเครื่องรางของท่าน
เท่าที่พอจำได้ พระสมเด็จเนื้อดิน ผสมว่าน พระนางพญา นางกวัก พระขุนแผน พระปิดตาลอยองค์ พระสาม พระตรีกายพิมพ์ใหญ่และเล็ก กุมารทอง เหรียญรูปเหมือน สามรุ่น ทรงไข่จะคล้ายกัน ตะกรุดไม้ไผ่ยอดด้วน ตะกรุดไม้ไผ่ผ่ากอ ตะกรุดโทน ผ้ายันต์ แหวนสวมนิ้ว วัวธนู สีผึ้ง เต่าเรือน ฯลฯ

หลวงพ่อท่านย่นระยะทางได้มีคนเคยเห็นท่านบิณฑบาตในเวลาเดี่ยวกันทั้งใน กันทรารมย์ อุบลราชธานี ศรีสะเกษแต่พอถามท่านเงียบไม่พูด สมันนั้นถนนหนทาง เงียบสงบน่ากลัวมาก ทั้งโจร ผกค ศิษย์ท่านจากกรุงเทพฯ ขับรถเก๋งไปขากลับโดนโจรปล้นแต่พอเข้าไปเห็นหลวงพ่อสังข์นั่งในรถด้วย โจรพวกนั้นต่างวิ่งหนีเข้าป่าไปเลยอาพาธ

ในช่วงนั้นท่านนำชาวบ้านและตัวท่านเองออกไปช่วยก่อสร้างถนนยาวสี่กิโลเมตร ทำให้ฝุ่นปูนดินเข้าไปในปอดเป็นฝ้าเป็นแผล นับแต่นั้นมาท่านก็ล้มป่วยตลอด จนถึงวาระสุดท้ายของท่าน เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2526 ก็จากไปด้วยอาการสงบ เมื่อเวลา 11.00 น. ท่านรู้ตัวว่าจะมรณภาพนอนสงบนิ่งหันหน้าสู่พระพุทธ ยกมือขึ้นไหว้หลวงพ่อสังข์ สุริโย อดีตพระอาจารย์ผู้แก่กล้าวิชาอาคมขลัง เรืองเวท มากไปด้วย บุญญาอภินิหาร พระเครื่องของท่านมีความศักดิ์สิทธิ์ คุ้มครองป้องกันอันตรายต่างๆได้ยอดเยี่ยม ใครที่ยังไม่มี พบเห็นที่ไหนอย่าปล่อยให้ผ่านมือไปล่ะครับรับรองว่าดีแน่นอนถ้าท่านมีไว้ติด ตัว

ครูบาอาจารย์ผู้ถ่ายทอดวิชาให้หลวงปู่สังข์
หลวงพ่ออ้วน โสภโณ วัดบ้านหนองดินดำ ตำบลบก อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ (ต่อมาย้ายไปอยู่ วัดบ้านโนนค้อ อำเภอโนนคูณ จังหวัดศรีสะเกษ ) ในสมัยนั้น คนเคารพนับถือกันว่า เป็นเกจิอาจารย์องค์หนึ่งที่มีชื่อเสียง คนเคารพนับถือมาก ได้ถ่ายทอดวิชาอาคมความรู้ต่าง ๆ ให้ และหลวงพ่อเอง ก็มีความเคารพนับถือในพระอาจารย์อ้วนมาก ต่อมา ญาติโยมทางกันทรลักษ์ ซึ่งมี พ่อใหญ่อ่อนสา บุญพอ พ่อใหญ่โสภา บุญสร้อย พ่อใหญ่สี ด้วงทอง พ่อใหญ่ เทพ วารินทร์ เป็นต้น ได้ไปกราบไหว้ขออนุญาต พระอาจารย์อ้วน ให้หลวงพ่อสังข์ มาจำพรรษาที่วัดนากันตม ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2478 เมื่ออนุญาตแล้ว พระอาจารย์อ้วนได้พูดสั่งเตือนกับญาติโยมว่า " ท่านยาครู สังข์ นี้ เป็นคนฮ้าย ( คนดุ ) เอาใจยากนะโยม แต่ท่านเป็นคนใจเด็ด จิตใจเข้มแข็ง พูดจริง ทำจริง ตรงไปตรงมา ขอให้ญาติโยม จงคอยเอาอกเอาใจท่านนะ จะได้คนดีมีวิชาอาคมไปอยู่ด้วย ได้พึ่งพาอาศัย และเป็นหลักมั่นคงในบวรพระพุทธศาสนาสืบไป


 
ราคาปัจจุบัน :     1,200 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     50 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    kaka05 (1.8K)

 

Copyright ©G-PRA.COM