(0)
เหรียญรุ่นแรก พิมพ์นิยม หลวงสงฆ์ ปี 05 วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย สุดยอดแห่งประสบการณ์ เหนียวจริง






รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องเหรียญรุ่นแรก พิมพ์นิยม หลวงสงฆ์ ปี 05 วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย สุดยอดแห่งประสบการณ์ เหนียวจริง
รายละเอียดเหรียญรุ่นแรก พิมพ์นิยม หลวงสงฆ์ ปี 2505 วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย สุดยอดแห่งประสบการณ์ เหนียวจริง จากการค้นหาประสบการณ์ที่เกิดขึ้นมากมาย จากบันทึกประจำวันบนโรงพัก และคำบอกเล่าปากต่อปากของคนเก่าแก่ และเหตุการณ์สำคัญ ที่มีการยิงกัน ในอดีตเมืองชุมพร ต้องมีการพูดถึงเหรียญ 05 พ่อหลวงสงฆ์ ที่ หลายๆคนรู้จักกันเกือบทั่วประเทศ พระที่แขวนแล้วสบายใจ เมตตาดี ทำมาค้าขาย พกพาติดตัว เอาไว้ใช้ ไปไหนใครๆก็ขอดู น่าใช้ น่าใช้ พระแท้สบายตา ราคาสบายใจ สภาพใช้บางๆ ๆ ทำความสะอาดผิวมาครับ พร้อมเลื่ยมทอง พร้อมใช้ครับ
ราคาเปิดประมูล3,000 บาท
ราคาปัจจุบัน20,100 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ300 บาท
วันเปิดประมูล - 06 ม.ค. 2555 - 12:18:20 น.
วันปิดประมูล - 16 ม.ค. 2555 - 23:28:05 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลfairat (2.1K)


(0)
ข้อมูลเพิ่มเติม 1 - 06 ม.ค. 2555 - 12:31:57 น.



พิมพ์นิยม สุดๆ ๆ ๆ ๆ ครับ


ข้อมูลเพิ่มเติม 2 - 06 ม.ค. 2555 - 12:33:09 น.



ประวัติ หลวงปู่สงฆ์ จันทสโร วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย จ.ชุมพร สุดยอดเถราจารย์ที่ถูกลืม

หลวงปู่สงฆ์ จนฺทสโร วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย อ.เมือง จ.ชุมพร

หลวงปุ่สงฆ์ เป็นนามที่ ชาวกรุงเทพมหานคร เรียกชื่อท่าน ด้วยความ เคารพ เลื่อมใส ท่านเป็นพระคณาจารย์ สมถวิปัสสนา ที่ชาวจังหวัดชุมพร และชาวกรุงเทพๆ ภูมิใจเป็น หนักหนา

หลวงปู่ท่่าน มีความเมตตาปรานีแก่ทุกๆคน ไม่เลือกชั้นวรรณะ ถ้าแม้บุคคล ใดไปขอพรจากท่านแล้ว จะได้รับความสมหวังอย่างมั่นคง ด้วยทุกคนเชื่อว่า ท่านหลวงปุ่สงฆ์ มีวาจาศักดิ์สิทธิ์ ยิ่งนัก

หลวงปุ่สงฆ์ ท่านเป็นคนชาว จังหวัดชุมพร โดยกำเนิด ท่านเกิด ที่หมู่บ้านวิสัยเหนือ อ.สวี จ.ชุมพร เมื่อวันอังคาร เืดือน ๖ ขึ้น ๑ ค่ำ ปีขาล พ.ศ.๒๔๓๓
บิดา ชื่อ นางแดง มารดาชื่อ นางนุ้ย มีอาชีพทำนา-ไร่สวน อายุได้ ๑๘ แี ท่านได้บรรพชาเป็น สามเณร ที่วัดสวี อันเป็นวัดใกล้ๆบ้านเกิดท่าน

เมื่อบวชเป็นสามเณรแล้ว ท่านก็ได้ศึกษาพระธรรมวินัยอยุ่ ๒ ปี จึงได้ลาสึก ออกไปช่วยบิดา มารดา ประกอบอาชีพทำงานท้องนาและไร่สวน
ครั้นอายุครบอุปสมบท ท่านได้มาฝากตัวแก่พระอุปัชฌาย์ ที่วัดสวี ขอบวชเป็น พระภิกษุสงฆ์ ได้รับความเมตตาจาก พระอาจารย์ชื่น เป็นพระอุปัชฌาย์ ให้ฉายาว่า "จันทสโรภิกขุ"

หลังจากบวชเป็นพระแล้ว ท่านได้ไปอยู่จำพรรษาที่วัดควน อ.สวี จ.ชุมพร ๑ พรรษา ในระหว่างพรรษา ท่านได้ศึกษาพระธรรมวินัยเพิ่มเติม จนพอรู้แนวทางการ ดำเนินชีวิตในเพศพรหมจรรย์
ออกพรรษาแล้ว ท่านมีความสนใจทางสมถกรรมฐาน และวิปัสสนากรรมฐาน แต่ในจังหวัดชุมพร ไม่มีพระอาจารย์สอนทางด้านนี้เลย ท่านจึงกราบลาพระอุปัชฌาย์ -อาจารย์ ออกจากจังหวัดชุมพร มุ่งหาพระอาจารย์สอนกรรมฐานในถิ่นอื่นๆ

โดยได้ออกเดินทางไปท่่ามกลางป่าเขาอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง เพราะท่าน ยังไม่รู้จักคำว่า " เดินธุดงค์" ในสมัยนั้น
แต่หลวงปุ่สงฆ์ มีความแน่ใจว่า การเดินทางอยุ่ในป่าดงพงไพรนี้ จะต้องพบกับ พระผู้ปฎิบัติบ้าง เพราะพระกรรมฐานชอบอยู่ป่าดง มากกว่า อยุ่วัดวาอาราม

หลวงปุ่สงฆ์ รอดพ้นจากอันตรายรอบด้าน เช่น สัตว์ป่า ไข้าป่าอันดุร้ายไปได้ ก็เพราะแรงใจที่มุ่งปฎิบัติธรรม กับพระอาจารย์องค์ใดองค์หนึ่ง เมื่อพบก็จะมอบตัวเป็น ศิษย์ ขอฝึกอบรมด้วยเท่่านั้น

หลวงปุ่สงฆ์ประสบความสมหวัง เมื่อได้ทราบว่า .... พระอาจารย์รอด วัดโต๊ะแซ หรือตอแซ เป็นพระอาจารย์ที่ทรงฌานสมาบัติสูงองค์หนึ่ง ในจังหวัดภูเก็ต ท่านจึงได้ไป ฝากตัวเป็นศิษย์ ขอฝึกอบรม ปฎิบัติพระกรรมฐาน อยุ่กับพระอาจารย์รอด ๒ พรรษา
หลวงปุ่สงฆ์ มีความพากเพียร อย่างคร่ำเคร่ง มีสมาธิแก่กล้า สามารถในทาง ปฎิบัติมากแล้ว ท่านพระอาจารย์รอด ได้ให้ออกเดินธุดงค์ไปอยุ่ป่าช้า ตามถ้ำผาป่าดง ต่อไป เพื่อความรุ้แจ้งในจิตใจ และจะได้ปรารภธรรมตามสติปัญญา

หลวงปุ่สงฆ์เดินธุดงคกรรมฐานไปจนถึงชายแดนด้านมาลายู จากนั้นท่านก็ ได้เดินธุดงค์ ย้อนกลับมาจนถึงจังหวัดเพชรบุรี

หลวงปุ่สงฆ์ จนฺทสโร ท่่านมีความชำนาญในเรื่องสมถกรรมฐานและวิปัสสนา กรรมฐานมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สมัยก่อนโน้น ทางภาคใต้ นับตั้งแต่จังหวัดชุมพรลง ไป ครูบาอาจารย์ต่างๆ มักจะสนใจปฎิบัติสมถกรรมฐานแล้ว เดินจิตเล่นฤทธิ์ กันเสีย โดยส่วนมาก

สำนักเรียนวิชาต่างๆ ภายใน(จิต) สำนักเขาอ้อ มีชื่อเสียงมากในเรื่องนี้ แต่ หลวงปุ่สงฆ์ ก็ดี หลวงปุ่หมุนก็ดี ตามที่มีชื่อเสียงโด่งดังอยุ่ในปัจจุบันนี้ ท่า่นสามารถหัน เ้ข้ามาดำเนินจิตสู่วิปัสสนากรรมฐานเสีย เพราะเป็นหนทางออกจากความยึดมั่น ในอำนาจจิต อำนาจฌานได้อย่างสิ้นเชิง เป็นความจริงดังนี้

ต่อมาหลวงปุ่สงฆ์ ท่านเกิดสติปัญญา มองเห็นภัยในวัฎสงสาร ที่มันเคย แปรปรวน หมุนเวียน ไม่รู้จบ ท่านเกิดเบื่อหน่าย คิดดำเนินชีวิตในป่าดงพงไำพร ทำจิต เร่งบำเพ็ญเพียร เพื่อความพ้นทุกข์
การเดินธุดงคกรรมฐานของครูบาอาจารย์นั้น มิใช่ว่าจะเดินไปในที่แห่งหนึ่ง แล้วไปในที่แห่งหนึ่ง พึงรีบเดินเืพื่อให้ถึงเร็วๆนั้น หาไม่ แต่การเดินธุดงค์ก็เหือนการ เดินแบบปกติ หรือเดินจงกรมนั่นเอง

ท่านเดินอย่างมีสติ .... คือ ขณะที่ก้าวเดินไปนั้น ท่านกำหนดคำบริกรรม หรือพิจารณาธรรมไปเรื่อยๆ โดยไม่นับก้าวแต่อย่างใด
ท่านเดินด้วยสติ แม้อะไรจะเกิดขึ้นมาในช่วงนั้น ท่านก็รู้ชัด ไม่มีอาการของ จิตแส่ส่ายไปมา เพราะสติเป็นกำลังอันสำคัญขณะทำความเพียร เช่นอิริยาบถ ยืน เดิน นั่ง นอน

หลวงปู่สงฆ์ จนฺทสโร ท่านได้อาศัยชีวิตอยุ่ในป่าดงเป็นเวลาหลายปี อาศัยโคน ไม้ ถ้ำผาต่างๆ เป็นที่พักผ่อน ไม่มีความอาลัยในชีวิตว่าจะสุข หรือทุกข์ ท่่านมุ่งปฎิบัติ ธรรม เพื่อความรู้ธรรม

เมื่อรู้ธรรมแล้ว ท่านก็นำธรรมะนั้น มาสอนจิตสอนใจตนเอง ขัดเกลา กิเลส ตัณหา อุปาทาน ซึ่งเป็นสมบัติประจำสันดานมนุษย์ ให้หลุดให้ลอกออกไปจากจิตใจ ชำระจิตใจด้วยธรรม เพื่อความสะอาดหมดจดแห่งชีวิต

๗ ปี แห่งการทรมานกิเลส ภายในจิตใจของท่่าน ซึ่งไม่เคยออกจากป่าสู่เมือง เลย ทำให้สภาพจิตสดใสแจ่มแจ้งในธรรมะ
แต่สภาพสังขาร ดูออกจะเป็นฤาษีชีไพร หนวดเครารุงรัง ผมเผ้ายาว จีวร สบง ขาดรุ่งริ่ง นั่งภาวนาในป่าเมืองชุมพร

คล้ายกับวาสนาท่านจะต้องมาอยุ่วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย จึงมีชาวบ้านป่า เดินตาม นกตัวหนึ่ง ที่ร้องเป็นภาษามนุษย์ว่า " หนักก็วางเสีย ! หนักก็วางเสีย " ชาวบ้านป่า เดินตามนก จนพบ หลวงปุ่สงฆ์ และได้นิมนต์มาอยู่วัดร้างแห่งนั้น

หลวงปุ่สงฆ์ จนฺทสโร ท่่านเป็นพระภิกษุสงฆ์ ที่มีความอดทน ค้นคว้า สัจธรรม ความเป็นจริง ของพระพุทธเจ้า ด้วยชีวิตเป็นเดิมพัน
๑๐ พรรษา ท่ามกลางป่าดง ท่านอาศัยภูเขาลำเนาไพรมาโดยตลอด การบิณฑบาต ท่านโคจรไปในหมุ่บ้านชาวป่า ได้บ้างอดบ้าง ตามอัตภาพ จนมีความ พอดีแก่จิตใจ ปล่อยวางของหนัก ได้หมดสิ้นแล้วอย่างมั่นใจ

ท่านจึงออกจากป่า สู่วัดร้างแห่งหนึ่ง ท่่านได้จำพรรษาก่อสร้างวัดร้างแห่งนั้น จนเจริญรุ่งเรือง ในปัจจุบัน โดยขนานนามว่า วัดเ้จ้าฟ้าศาลาลอย อ.เมือง จ.ชุมพร

หลวงปุ่สงฆ์ จนฺทสโร ท่านเป็นพระผู้ปฎิบัติดี ปฎิบัติชอบองค์หนึ่ง ในจังหวัด ชุมพร บัดนี้ท่านได้งางแล้ว ซึ่งขันธ์อันหนักหน่วงของท่าน และได้ทิ้งรากฝากความดี งามให้แก่ชนรุ่นหลังระลึกถึง ณ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย เท่านั้น ! ....
หลวงปู่สงฆ์ จนฺทสโร เป็นพระสงฆ์ในการถือสันโดษ มีจริยวัตรอันงดงามยิ่ง ท่านฉันอาหารเพียงวันละมื้อเดียว เป็นพระอาจารย์ฝ่ายวิปัสสนากรรมฐานเป็นพระที่พูดน้อยรักความสงบ สำรวม กาย วาจา ใจ เป็นพระอิยบุคคล ผู้ปฎิบัติดีปฎิบัติชอบรูปหนึ่งดังนั้นบรรดาลูกศิษย์ลูกหาญาติโยมทั้งหลายมักจะชุมนุมกันที่ศาลาเวลาเช้าก่อนไปทำงานเป็นประจำก็เพื่อขอวาจาสิทธิ์ของท่านนั้นเองถ้าท่านกล่าวคำใดกับใคร ก็จะเป็นความจริงอย่างนั้นเสมอ ครั้งหนึ่งมีข้าราชการผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง เดินทางเข้าไปนมัสการท่านพร้อมกับนำสัตว์เลี้ยงสี่เท้าไปถวายท่านด้วย หลวงปู่สงฆ์เห็นก็ถามขึ้นว่า " อ้าว…..นั่นเอานก หญ่คนนั้นตอบว่า " ไม่ใช้นกหรอกหลวงปู่ " ว่าแล้วก้เปิดกรงออกเท่านั้นทุกคนต่างตกตะลึงในความอัศจรรย์ที่เกิดขึ้น เพราะแทนที่จะเป็นสัตว์สี่เท้าที่ตนจับใส่กรงมา แต่หาเป็นเช่นนั้นไม่…กลับเป็นนกตัวหนึ่งบินปร๋อออกจากกรงไปทันที่… คนทั้งหลายในวัดต่างก็พูดว่า " นี้เป็นวาจาสิทธิ์ของหลวงปู่ "

ยาเส้น
ตามปกติหลวงปู่สงฆ์ท่านชอบใช้ ยาเส้น สีปากแล้วอมเอาไว้ดังนั้นยาเส้นที่ท่านใช้แล้วจะกลับกลายเป็นของวิเศษที่ศักดืสิทธิ์ ครั้งหนึ่งได้มีคนมาหาหลวงปู่ท่านก็อมยาเส้นไปให้ ยาเส้นนี้เดิมเป็นของใช้ประจำวัน คนที่เคารพนับถือหลวงปู่ ก็เลยขอยาเส้นท่านไปเมื่อได้แล้วก็นำไปไว้ในเซฟ รวมกับเอกสารของมีค่า หลังจากนั้นไม่นานนักขโมยเกิดเข้าบ้านชายคนนี้ เมื่อมันเปิดเซฟออกมามันก็เบือนหน้า เพราะในเซฟไม่มีสมบัติอะไรเลยภายในเซฟมีแต่ยาเส้นกองเต็มไปหมดไม่มีของมีค่า แต่แล้วคนพวกนี้ก็ไปไม่รอดโดนจับได้ของกลางไม่มีอะไรเลยเพราะมันไม่ได้อะไรไปเลยบอกกับตำรวจเพียงว่า " ในเซฟมีแต่ยาเส้นใครจะเอาไปทำไม " ความจริงยาเส้นในเซฟนั้นมีเพียงก้อนเล็กๆ ขนาดเท่าหัวแม่มือเท่านั้น

น้ำปลา.....ยาวิเศษ
เรื่องนี้ได้ทราบจากชาวบ้านจังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อหลายปีมาแล้วเขาปวดท้องมานาน ๑๐ กว่าปีไปรักษาที่ไหนตามโรงพยาบาลต่างๆเสียเงินไปเป็นแสนบาทนายแพทย์เก่งขนาดไหนก็รักษามาแล้ว ที่ไหนว่าเก่งๆพอเจอโรคบุคคลนี้เข้าไป ยอมกลัวรักษาไม่หายต่อมาได้ยินเขาเล่าลือว่าทางจังหวัดชุมพรมีพระวิเศษรูปหนึ่ง เคยรักษาโรคมาเป็นพันๆคน และก็หายจนหมดสิ้นทุกคน คนป่วยจึงได้หอบสังขารชนิดผอมติดกระดูกมาหาหลวงปู่สงฆ์ นี่แหละทันทีที่เห็นหน้าหลวงปู่สงฆ์ คนป่วยก็มีความรู้สึกศรัทธาอย่างมากมายขนลุกขนพองอยู่ตลอดเวลาแม้ท่านจะกลับกุฎิไปแล้วก็ตาม ศิษย์ของท่านจึงนำน้ำปลาไปให้ท่านแพ่งกระแสจิตให้สัก ๑๐ นาที แล้วนำน้ำปลานั้นมาให้และบอกว่าให้กินน้ำปลานี้ยาอื่นท่านบอกว่าไม่ต้องกินแล้วถึงกินก็ไม่หาย ด้วยความศรัทธาในองค์หลวงปู่สงฆ์คนป่วยผู้นั้นจึงเปิดขวดน้ำปลาดื่มเข้าไป แม้ว่าน้ำปลาจะมีรสเค็มจริงอยู่ แต่เวลาน้ำปลาผ่านลำคอเข้าไปแล้ว รู้สึกเย็นๆพอไปถึงท้องแล้วอาการปวดท้องเสียดๆนั้นก็หายเป็นปลิดทิ้ง ไม่เกิดขึ้นอีกเลย และมีอาการยิ้มแย้มทันที ผู้ป่วยคนนั้นก็ล้มลงกราบหลวงปู่สงฆ์ด้วยความศรัทธา

กิจวัตรหลวงปู่สงฆ์

เวลา 04.00 น. ไหว้พระทำวัตรเช้า
เวลา 06.10 น. ท่านออกจากห้องเตรียมที่จะออกบิณฑบาตร ในระหว่างนั้นสามเณรอุปัฏฐากจะ ขึ้นปฏิบัติ และญาติโยมมากราบขอพร
เวลา 07.00 น. ออกบิณฑบาตร เมื่อกลับมาแล้วท่านเข้าห้องไหว้พระอีก
เวลา 09.00 น. ลงหอฉัน เพื่อฉันภัตตาหาร เมื่อฉันภัตตาหารแล้วและให้พรเรียบร้อยท่านจะพูดคุยกับญาติโยม
ที่มาทำบุญหลังจากนั้นท่านกลับขึ้นกุฏิและตอบรับพุทธศาสนิกชนที่มาจากใกล้และไกลพอสมควรแล้วเข้าห้องพักผ่อน
เวลา 12.30 น. ออกจาห้อง เพื่อต้อนรับศรัทธาญาติโยมที่มาขอพร
เวลา 14.00 น. ท่านสรงน้ำแล้วเข้าห้องไหว้พระสวดมนต์
เวลา 16.00 น. ออกจากห้อง เพื่อต้อนรับศรัทธาญาติโยมที่มาขอพร
เวลา 18.00 น. เข้าห้องทำกิจภาวนา และให้ภิกษุสามเณรทั้งหมดต้องทำกิจภาวนาด้วยจนถึงเวลา 20.00 น.
เวลา 20.00 น. เสร็จจากทำกิจภาวนาแล้ว ออกจากห้องให้ภิกษุสามเณรขึ้นปรนนิบัติ และเป็นโอกาสที่ท่านให้โอวาทแนะนำสั่งสอน
เวลา 22.00 น. เข้าห้องพักผ่อน
เวลา 24.00 น. ล่วงจากนี้ไปแล้วท่านจะทำกิจภาวนาไปจนถึงเวลา 04.00 น.
** อนึ่งถ้าเป็นวันพระกลางเดือนและสิ้นเดือน เวลา 13.00 น. ท่านจะลงอุโบสถพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์เพื่อสวดและฟังพระปาฎิโมกข์โดยมิได้ขาด


ข้อมูลเพิ่มเติม 3 - 15 ม.ค. 2555 - 23:59:16 น.

*รับประกันพระแท้ภายในระยะเวลา 9999 วัน นับตั้งแต่วันที่ท่านได้รับพระ หากเก๊หรือมีปัญหาภายหลังหรือเกินกำหนดเวลารับประกัน หักเปอร์เซ็นต์ 25 %
** รับประกันความพอใจ ภายในระยะเวลา 3 วันตามกฎการันตีพระ ไม่หักเปอร์เซ็นต์ แต่หากเกินกำหนดหักจำนวน 25 % (หมายถึง เมื่อได้รับพระแล้วไม่ถูกใจ)
** พระต้องอยู่ในสภาพเดิม ไม่ชำรุดหักบิ่น เสียสภาพ ล้างผิวครับ
** ทางสำนักงานฯ พระอยู่ในเลี่ยมไม่สามารถแยกได้ครับ ...
** ยังมีพระเครื่องอีกหลายรายการ...คลิกที่รูปค้อนได้เลยครับ
** เช็คความชอบ ความพร้อม ความมั่นใจ ก่อนเคาะครับผม


ข้อมูลเพิ่มเติม 4 - 16 ม.ค. 2555 - 00:10:44 น.



*รับประกันพระแท้ภายในระยะเวลา 9999 วัน นับตั้งแต่วันที่ท่านได้รับพระ หากเก๊หรือมีปัญหาภายหลังหรือเกินกำหนดเวลารับประกัน หักเปอร์เซ็นต์ 25 %
** รับประกันความพอใจ ภายในระยะเวลา 3 วันตามกฎการันตีพระ ไม่หักเปอร์เซ็นต์ แต่หากเกินกำหนดหักจำนวน 25 % (หมายถึง เมื่อได้รับพระแล้วไม่ถูกใจ)
** พระต้องอยู่ในสภาพเดิม ไม่ชำรุดหักบิ่น เสียสภาพ ล้างผิวครับ
** ทางสำนักงานฯ พระอยู่ในเลี่ยมไม่สามารถแยกได้ครับ ...
** ยังมีพระเครื่องอีกหลายรายการ...คลิกที่รูปค้อนได้เลยครับ
** เช็คความชอบ ความพร้อม ความมั่นใจ ก่อนเคาะครับผม


 
ราคาปัจจุบัน :     20,100 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     300 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    Moderndoc (712)(2)

 

Copyright ©G-PRA.COM