(0)
!!!!ไม่แพง!!!!..ตะกรุดพระพายสะกดทัพ หลวงปู่แผ้ว ปวโร มหาบารมี ปี50 หลวงปู่แผ้ว วัดหนองพงนก








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่อง!!!!ไม่แพง!!!!..ตะกรุดพระพายสะกดทัพ หลวงปู่แผ้ว ปวโร มหาบารมี ปี50 หลวงปู่แผ้ว วัดหนองพงนก
รายละเอียดตะกรุดเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษามหาราชายันต์พระพายสะกดทัพ 5.5 ซม. หลวงปู่แผ้ว ปวโร มหาบารมี ปี50
หลวงปู่แผ้ว ปวโร เจ้าอาวาสวัดกำแพงแสน พระเกจิที่กำลัง โด่งดังทางตะกรุดโสฬสมงคล และตะกรุดคู่ชีวิตยุคนี้ไม่มีใครเกินไปได้ ไม่ลองไม่รู้ เพียงแต่ไม่ชอบชูตัวเองให้ดัง หลวงพ่อได้อนุญาตให้อาจารย์เวียน เจ้าอาวาสวัดหนองพงนก อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม สร้างตะกรุดชุดนี้นำเงินไปสร้างวิหารหลวงพ่อมงคลนิมิต ราคา 20 ล้าน
ตะกรุดชุดนี้มีประเด็นที่ น่าสนใจในการสร้าง แทนที่จะม้วนด้านอักขระเข้าในกลับม้วนออกด้านนอก อาจารย์เวียน บอกว่า ต้องการให้คนรุ่นต่อไปได้ศึกษาอักขระเลขยันต์ตะกรุดก็เหมือนผ้ายันต์นั่น แหละ
วันเสาร์ที่ 13 ตุลาคม 2550 ทางวัดหนองพงนกจะจัดพิธีปลุกเสกจักรพรรดิตราธิราช มีพระเกจิอาจารย์ 108 รูปนั่งปรกในจำนวนนี้มี พระเกจิสายนครปฐม เช่น หลวงปู่แผ้ว วัดกำแพงแสน หลวงปู่แย้ม วัดสามง่าม หลวงพ่อเจือ วัดกลางบางแก้ว และพระเกจิสายอยุธยาทุกรูป จัดว่าเป็นพิธีปลุกเสกตะกรุดครั้งสำคัญ และจัดเลี้ยงพระสงฆ์ถึง 500 รูป
ตะกรุดโสฬสมงคลและตะกรุดคู่ชีวิต ที่ หลวงปู่แผ้ว ได้อนุญาตให้จัดสร้างรุ่นนี้พิเศษที่อาจารย์เวียนเพิ่มยันต์อิทธิคุณเด่น 5 ยันต์ มีบารมี 10 ทัศน์ ด้านมหาอำนาจ ยันต์อาวุธ 5 ป้องกันวิญญาณร้าย ยันต์โสฬสมงคล ที่ใช้เสกเครื่องราง ยันต์ ตรีนิสิงเหกันถูกคุณไสย และยันต์จตุโรด้านมหานิยมโชคลาภ
เรื่อง ของอยู่ยงคงกระพัน ไม่มีใครเกินวัตถุมงคลที่หลวงปู่แผ้ว ที่ได้เมตตาปลุกเสก อาทิ เครื่องราง ตะกรุดพระพายสะกดทัพ ที่หลวงปู่แผ้ว ได้เมตตาอนุญาตให้วัดหนองพงนกจัดสร้างและหลวงปู่แผ้ว ได้มาเป็นประธานในพิธีปลุกเสก เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2550 พิธีจักรพรรดิตราธิราช พร้อมด้วยพระเกจิอาจารย์ดังทั่วประเทศ 108 รูป
พระ อาจารย์เวียน ได้รวบรวมโลหธาตุที่เป็นมงคล แผ่นยันต์ แผ่นจาร เครื่องใช้สำริด ทองคำโบราณ นาก เงิน โบราณ นำมาหล่อหลอมและรีดเป็นแผ่นลงอักขระ สร้างเป็นตะกรุดตามตำรับตำราพิชัยสงคราม ที่คณาจารย์โบราณได้กำหนด ได้ลงพระคาถาต่างๆ และได้เข้าพิธีมหาจักรพรรดิตราธิราช เมื่อวันเสาร์ที่ 13 มีนาคม 2550 ณ มณฑลพิธีวัดหนองพงนก โดยมีหลวงปู่แผ้ว ปวโร เป็นประธาน พร้อมด้วยพระคณาจารย์ พระเกจิอาจารย์ดัง 108 รูป
เซียนศักดิ์ชัย เล่าว่า ตะกรุดพระพายสะกดทัพ เป็นเครื่องรางของขลังสุดยอดวิชาของพระเกจิอาจารย์ยุคโบราณที่มีชื่อเสียง โด่งดัง อาทิ หลวงพ่อแช่ม พรหมโชโต วัดตาก้อง พระเกจิอาจารย์ผู้ที่มีวิชาอาคมและพุทธาคมเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ มีชื่อเสียงโด่งดัง เกรียงไกร เป็นที่รู้จักกันในยุคสงครามมหาเอเชียบูรพา (อินโดจีน) พ.ศ.2485
หลวงพ่อแช่ม ยังเป็นพระเกจิอาจารย์ที่โด่งดัง มีชื่อเสียงและยังเป็นพระเกจิอาจารย์อีกรูปหนึ่งที่ได้รับนิมนต์จาก จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีในสมัยนั้น ขึ้นนั่งบนเครื่องบิน ภาวนาพระคาถาต่างๆ ที่ได้ศึกษาจากครูบาอาจารย์และจากตำราต่างๆ โปรยทรายเสกรอบกรุงเทพฯ เพื่อให้ประชาชนทุกท่าน และสถานที่ให้แคล้วคลาดปลอดภัยและรอดพ้นจากการทิ้งลูกระเบิดของเครื่องบิน ญี่ปุ่น
เรื่องศาสตร์วิทยาคมของหลวงพ่อแช่ม มีความเข้มขลังด้วยพลังพุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพ เทวานุภาพ มีความศักดิ์สิทธิ์เป็นยิ่งนักพุทธคุณครอบจักรวาล เมตตามหานิยม โชคลาภค้าขายเจริญรุ่งเรือง คงกระพันชาตรี แคล้วคลาด ป้องกันภัย
หลวง พ่อแช่ม ได้ลงพระยันต์พระพายสะกดทัพในแผ่นโลหะและในผืนผ้าโดยได้นำเอาหัวใจพระคาถา ที่มีความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ตั้งแต่ยุคโบราณมาถึงปัจจุบัน
วิชาพระ คาถาต่างๆ ได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก ซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์ในยุคนั้น โดยมาเขียนเป็นยันต์พระพายสะกดทัพที่ประกอบด้วยหัวใจพระคาถาสำคัญ อาทิ พระคาถาพระเจ้า 5 พระองค์, พระคาถานวหรคุณ หรือพระคาถาพุทธคุณ 9, พระคาถาพระรัตนตรัยหรือพระคาถาแก้ว 3 ประการ, พระคาถามหาอุด, พระคาถาพระเจ้า 16 พระองค์
"มีความเชื่อกันอีกว่าถ้าท่านมีคดี ความต่างๆ ให้ใช้ตะกรุดดอกนี้ใส่ในขันน้ำพุทธมนต์ แล้วตั้งจิตตั้งใจอธิษฐานขอคุณพระรัตนตรัย ทวยเทพเทวดา ครูบาอาจารย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก ดลบันดาลให้ชนะคดีความต่างๆ ตามตำราท่านบอกให้นำน้ำพุทธมนต์นั้นมาอาบดื่มกิน เพื่อความเป็นสิริมงคลต่อตัวเองครอบครัว และคนใกล้ชิด"

ของดีแบบนี้ แบ่งกันไปใช้ครับผม
ราคาเปิดประมูล240 บาท
ราคาปัจจุบัน250 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ10 บาท
วันเปิดประมูล - 22 ต.ค. 2555 - 20:50:09 น.
วันปิดประมูล - 23 ต.ค. 2555 - 21:18:26 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลconanzc (741)


(0)
ข้อมูลเพิ่มเติม 1 - 22 ต.ค. 2555 - 20:51:03 น.

เมืองนครปฐม ปัจจุบันมีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังหลายรูป หนึ่งในจำนวนนั้นก็มี "หลวง ปู่แผ้ว ปวโร" รวมอยู่ด้วย

"หลวงปู่แผ้ว ปวโร" พระเกจิชื่อดังแห่งวัดประชาราษฎร์บำรุง (วัดรางหมัน) อ.กำแพง แสน จ.นครปฐม ได้รับการขนานนามว่า เทพ เจ้าแห่งเมืองกำแพงแสน

เป็นพระเถระผู้ถือครองเพศบรรพชิตแบบเรียบง่าย สมถะ เคร่งครัดในพระธรรมวินัย

หลวงปู่แผ้ว ไม่มีตำแหน่งปกครองทางสงฆ์ ด้วยท่านไม่มีความปรารถนาในลาภยศตำแหน่งใดๆ ทั้งสิ้น

ด้านวัตถุมงคลของท่านก็เป็นที่กล่าวขานร่ำลือกันว่า มีพุทธคุณเข้มขลังที่สุด มีประสบการณ์แก่ผู้ที่บูชามากมาย ถึงขนาดมีคำกล่าวกันว่า "วัตถุมงคลรุ่นใดหรือวัดใด หากไม่นิมนต์หลวงปู่แผ้วไปนั่งปรก จะได้รับความนิยมน้อยกว่ารุ่นที่หลวงปู่แผ้วไปนั่งปรก"

ล่าสุด วัตถุมงคลของท่านที่มีชื่อเสียงโด่งดัง เป็นที่ปรารถนาในหมู่ลูกศิษย์ลูกหาและนักสะสมวัตถุมงคล คือ เหรียญพิทักษ์แดนใต้, เหรียญระฆังที่ระลึกอายุ 87 ปีหลวงปู่แผ้ว เป็นต้น

ปัจจุบัน หลวงปู่แผ้ว สิริอายุ 87 พรรษา 67 ตลอดระยะเวลากว่าชั่วชีวิตในการครองเพศบรรพชิต นอกจากปฏิบัติในพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด ท่านยังศึกษาเล่าเรียนและปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานอย่างเสมอต้นเสมอปลาย

อัตโนประวัติ มีนามเดิมว่า แผ้ว บุญวัฒน์ เกิดเมื่อวันแรม 14 ค่ำ เดือน 11 ปีกุน ตรงกับวันพุธที่ 7 พฤศจิกายน 2466 ณ หมู่บ้านหลักเมตร ต.ทุ่งขวาง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม

โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายพานและนางจุ้ย บุญวัฒน์

ครอบครัวของท่านประกอบอาชีพทำนาเป็นหลัก ฐานะพอเลี้ยงตัวได้สบายโดยไม่เดือดร้อน

เมื่ออายุได้ 2 ขวบ ครอบครัวได้ย้ายไปอยู่ ต.ทุ่งขวาง อ.กำแพงแสน จากนั้นท่านจบการศึกษาชั้นประถมปีที่ 3 จากโรงเรียนวัดหนองม่วง ต.เตาอิฐ อ.บางแพ จ.ราชบุรี

ในช่วงวัยเยาว์ ท่านเป็นเด็กค่อนข้างเงียบขรึม ใจเย็น ไม่เที่ยวเตร่ เกเร ชีวิตส่วนใหญ่จะผูกพันอยู่กับวัด ด้วยโยมพ่อโยมแม่เป็นคนใจบุญสุนทาน ทุกวันพระจะพาลูกไปทำบุญที่วัด สมาทานศีลฟังเทศน์ฟังธรรมและสนทนาธรรมมิได้ขาด

เมื่อมีอายุประมาณ 8 ขวบ โยมพ่อได้พาบุตรชายไปฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อหงส์ วัดหนองม่วง ต.เตาอิฐ อ.บางแพ จ.ราชบุรี เพื่อเรียนหนังสือ และศึกษาพระธรรมวินัย

ครั้นอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ เกิดความศรัทธาประสงค์จะบวชเป็นพระภิกษุในบวรพุทธศาสนา เพื่อแทนคุณบิดามารดา จึงได้บรรพชาอุปสมบท ณ วัดหนองปลาไหล อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2486 โดยมีพระครูสุกิจธรรมสร (หลวงพ่อสว่าง ธัมมสโร) วัดกำแพงแสน เป็นพระอุปัชฌาย์, หลวงพ่อปาน อรักโข วัดหนองปลาไหล เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์สนั่น วัดหนองปลาไหล เป็นพระอนุสาวนาจารย์

หลังครองเพศบรรพชิต ท่านตั้งใจศึกษาพระธรรมวินัยอย่างจริงจัง หมั่นพิจารณาคำสอนของครูบาอาจารย์อย่างถ่องแท้ ได้ตัดสินใจอย่างแน่วแน่ว่าจะอุทิศกายถวายชีวิตอยู่ในบวรพระพุทธศาสนาตลอดไป

ช่วงแรกบวช ท่านอยู่จำพรรษาที่วัดหนองปลาไหล เป็นเวลา 1 เดือน จากนั้นได้จาริกไปจำพรรษาที่วัดหนองม่วง 8 พรรษา ท่านมีหน้าที่สอนนักธรรมแก่พระภิกษุสงฆ์สามเณรภายในวัด

ต่อมาในปี พ.ศ.2494 ท่านได้ย้ายมาเป็นครูสอนพระปริยัติธรรม จำพรรษาอยู่ที่วัดปลักลายไม้ อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ในปี พ.ศ.2497 หลวงปู่ได้ย้ายไปสอนพระปริยัติธรรม และจำพรรษาที่วัดสว่างชาติประชาบำรุง ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม

อย่างไรก็ตาม ทั้งสองวัดเมื่อตำแหน่งเจ้าอาวาสว่างลง พระภิกษุสามเณรและชาวบ้านต่างต้องการให้หลวงปู่ดำรงตำแหน่งแทน แต่ท่านไม่ประสงค์ที่จะรับตำแหน่งทางปกครองคณะสงฆ์แต่อย่างใด

พ.ศ.2502 หลวงปู่เริ่มสนใจที่จะศึกษาและปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานอย่างจริงจัง ท่านจึงย้ายไปอยู่จำพรรษาที่วัดกำแพงแสน ต.ห้วยหมอนทอง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ศึกษาปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานและวิทยาคมกับหลวงพ่อหว่าง อย่างมุ่งมั่นจริงจัง จนแตกฉาน

เมื่อปี 2524 หลวงปู่ดุลย์ อตุโล วัดบูรพาราม จ.สุรินทร์ พระกัมมัฏฐานสายพระอาจารย์มั่น ได้เดินทางมาพักอยู่จำพรรษา ณ วัดกำแพงแสน ทำให้หลวงปู่แผ้ว ได้มีโอกาสสนทนาธรรมกับหลวงปู่ดุลย์ และได้รับความเมตตาถ่ายทอดแนวทางการปฏิบัติกัมมัฏฐานให้ด้วย

ตลอดเวลา หลวงปู่แผ้ว ได้สร้างคุณูปการสืบสานจรรโลงพระพุทธศาสนาอย่างรอบด้าน อาทิ ปฏิสังขรณ์วัดวาอารามต่างๆ ทั้งในเขตอำเภอกำแพงแสนและพื้นที่ใกล้เคียง ท่านจะอุดหนุนด้วยการสร้างวัตถุมงคลที่ระลึก เพื่อให้ผู้ที่เลื่อมใสศรัทธาได้สมทบทุนปัจจัยนำไปใช้เพื่อการสาธารณประโยชน์

แม้วัยที่ล่วงเลยถึง 87 ปี แต่หลวงปู่แผ้ว ยังคงรับกิจนิมนต์นั่งปรกปลุกเสกวัตถุมงคลอยู่เป็นประจำ

หลวงปู่แผ้ว เคยกล่าวปรารภไว้ ว่า "ญาติโยมที่เขานิมนต์ให้เราไปร่วมพิธีนั่งปรก ก็เพราะเขาเชื่อว่าเราไปนั่งปรกแล้ววัตถุมงคลจะเข้มขลัง เราจะปฏิเสธไม่ได้"

ส่วนวิทยาคมอันเข้มขลังที่หลวงปู่แผ้วใช้นั่งบริกรรมระหว่างนั่งปรกปลุกเสกวัตถุมงคล ล้วนแต่เป็นวิทยาคมของหลวงพ่อหว่าง อดีตเจ้าอาวาสวัดกำแพงแสน ซึ่งได้รับการถ่ายทอดจาก หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตกอีกทอดหนึ่ง

ในช่วงที่หลวงปู่หว่าง ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดกำแพงแสน ท่านมีความเชี่ยวชาญเรื่องยาสมุนไพรและแพทย์แผนโบราณ วัตถุมงคลของท่านก็เข้มขลังเป็นที่นิยม ทั้งนี้ หลวงปู่แผ้วได้ศึกษาอยู่กับหลวงพ่อหว่างจนกระทั่งท่านได้มรณภาพ เมื่อได้รับกิจนิมนต์นั่งปรกจึงนำวิชาของหลวงพ่อหว่างใช้รวมกับวิชาวิปัสสนากรรมฐานที่ได้เรียนมาที่วัดมหาธาตุฯ สนามหลวง มาใช้บริกรรมคาถา เพื่อให้เกิดความเข้มขลัง

สำหรับคาถาเสกวัตถุมงคลเข้มขลัง หลวงปู่แผ้ว บอกว่า มีบทเดียว แต่สร้อยของคาถามีหลายแบบ เช่น อาจจะบริกรรมว่า "พุทธังหลีก ธัมมังหลีก สังฆังหลีก" บ้างก็บริกรรมว่า "พุทธังแหวก ธัมมังแหวก สังฆังแหวก" หรืออาจจะบริกรรมว่า "พุทธังแคล้วคลาด ธัมมังแคล้วคลาด สังฆังแคล้วคลาด "

ท่านกล่าวแนะนำว่า "ตำราคาถาของวัดและสำนักต่างๆ ในปัจจุบันนี้ส่วนใหญ่เป็นของเดิม ที่สืบทอดจากครูบาอาจารย์ในอดีต หลายคนท่องคาถาถูกต้องตามอักขระชัดเจน แต่เหนือสิ่งอื่นใดจิตต้องนิ่งเป็นสมาธิคาถาจึงมีความเข้มขลัง ไม่ว่าจะเป็นพระหรือฆราวาส ถ้าจิตนิ่งเป็นสมาธิบริกรรมคาถาบทใดก็เข้มขลัง ที่ขาดไม่ได้ คือ ต้องตั้งอยู่ในศีลมั่นอยู่ในธรรม"

เมื่อช่วงเดือนมีนาคม 2552 หลวงปู่แผ้ว ได้ย้ายมาอยู่จำพรรษาที่วัดประชาราษฎร์บำรุง (วัดรางหมัน) อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม วัตรปฏิบัติยังคงดำเนินชีวิตดุจเดิมด้วยความมักน้อยสันโดษ ไม่ยินดียินร้ายในลาภสักการะทั้งหลายทั้งปวง เคร่งครัดในศีลาจารวัตร

ทำให้ท่านเป็นที่เคารพนับถือของศิษยานุศิษย์ตลอดทั้งพุทธศาสนิกชน ทั่วไป


 
ราคาปัจจุบัน :     250 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     10 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    supudom (173)(4)

 

Copyright ©G-PRA.COM