ร่วมเสนอความคิดเห็น

หัวข้อกระทู้ : มวลสารต่างๆ ที่ได้นำมาจัดสร้างเบี้ยแก้



(N)


มวลสารต่างๆ ที่ได้นำมาจัดสร้างเบี้ยแก้ ในวาระนี้ประกอบด้วย

หอยเบี้ย หรือเบี้ยจั่น ในการคัดเลือกตัวเบี้ยนั้น ที่จะนำมาจัดสร้างเบี้ยได้คือการนับซี่ฟันของตัวเบี้ยให้มีซี่ฟัน ๒๒ ซี่ หรือ ๒๔ ซี่ หรือ ๓๒ ซี่ นอกจากนับซี่ฟันแล้ว จะต้องคัดเลือกตัวเบี้ยที่ได้อายุหรือหมดอายุขัย คือ ตายเองตามธรรมชาติเท่านั้น เบี้ยที่ได้คัดเลือกเช่นนี้แล้วถึงจะนำมาจัดสร้างได้ ถือว่าเป็นตัวเบี้ยที่มีดีในตัว ในสมับโบราณบรมครูต่างๆ ความเชื่อของไทยเราเชื่อว่า เบี้ยที่มีดีในตัวนั้นจะสามารถป้องกันคุณไสย ลมเพลมพัด หรือยาสั่งต่างๆได้ แม้กระทั่งป้องกันแมงกินฟันในเด็ก เหตุนี้คนสมัยโบราณหรือคณาจารย์ในอดีตจึงเอาเบี้ยจั่นมาบรรจุปรอทซึ่งเป็นธาตุกายสิทธิ์อีกชนิดหนึ่ง ประกอบกับตัวเบี้ย มีเปลือกที่แข็งแรง คงทน และตัวพอประมาณ ทำให้เก็บรักษาปรอทได้ง่าย

โดยคุณ แมนลพบุรี (1.1K)  [ศ. 26 ก.ย. 2557 - 23:23 น.]



โดยคุณ แมนลพบุรี (1.1K)  [ศ. 26 ก.ย. 2557 - 23:27 น.] #3483610 (1/16)


(N)


มวลสารที่สำคัญอีกชนิดหนึ่งในการสร้างเบี้ยแก้ ปรอท ธาตุกายสิทธิ์ หลวงปู่จันทร์ ท่านบอกว่า หัวใจของการสร้างเบี้ยแก้ให้มีอิทธิคุณ คือปรอทธาตุกายสิทธิ์ที่เกิดจากธรรมชาติ ครูบาอาจารย์ท่านระบุไว้ตามตำราว่า ปรอท คือธาตุกายสิทธิ์ที่สามารถป้องกันสัตว์ป่า คุณไสย ลมเพลมพัด สามารถใช้เป็นเครื่องราง ในด้านคงกระพันชาตรี และเกิดโชคลาภ ใช้ในการเดินป่าซึ่งมีอันตรายอยู่รอบด้านอย่าง เสือสมิง หรือ ภูติต่าง ๆ จะไม่สามารถทำอันตรายได้ รวมทั้ง เขี้ยว งา ไข้ป่าอีกด้วย และยังสามารถรักษาแผลได้ด้วย

โดยคุณ แมนลพบุรี (1.1K)  [ศ. 26 ก.ย. 2557 - 23:28 น.] #3483613 (2/16)


(N)
การที่จะได้ปรอทมาในการจัดสร้างครั้งนี้ ต้องใช้เวลานานนับหลายปี เพื่อรวบรวมปรอทจากธรรมชาติให้ได้พอที่จะจัดสร้างเบี้ยในวาระนี้ เพราะการกักปรอทธรรมชาตินั้นต้องมีพิธีกรรมอย่างถูกวิธีการ และความอดทนอย่างสูง เพื่อให้ได้ปรอทจากธรรมชาติแท้ๆ ที่ระบุไว้ตามโบราณกาล ถูกต้องตามตำราของครูบาอาจารย์ เริ่มจากการเลือกสรรพไข่ไก่ เป็นไก่ชนโบราณหรือไก่สยามไทย ที่เน่าเสีย เจาะรูเล็กๆ ไว้สองข้าง เอาสายสิญจน์ที่ผ่านการปลุกเสกจากหลวงปู่จันทร์มาหลายปีผูกติดกับไม้ไผ่ ที่เรียกว่าไม้ไผ่สีสุขที่ผ่าง่าม ปักไว้ริมคลอง ริมแม่น้ำ หรือลำธาร แต่จะต้องเป็นสถานที่สงบ ร่มเย็น ไม่มีคนพลุกพล่าน หรือสถานที่ที่เรียกว่า สัมปายะ เพราะปรอทจะไม่ชอบเสียงที่ดังต่างไปจากธรรมชาติ การใช้ใข่ไก่นั้นหลวงปู่จันทร์ท่านเล่าว่า นิสัยของปรอทจะชอบกินของสองอย่างคือ ของต่ำ และ ของสูง ควบคู่กันไป เช่น ของเน่า ที่เป็นของต่ำ ของสูง เช่น ทองแดง ทองเหลือง เงิน หรือแม่แต่ทองคำ การที่ใช้ใข่ไก่นั้น ปรอทจะเข้าไปตามรูเล็กๆ ที่เจาะไว้ เพื่อเข้าไปกินเนื้อข้างในไข่ขาว ไข่แดง ที่เน่าเสีย เมื่อเข้าไปกินเนื้อในของไข่ในลักษณะของไข่ไก่ตามแนวนอน จะมีรูปโค้งเว้า ปรอทจะเข้าไปนอนอยู่ในไข่ไก่ ไข่ไก่นั้นมีเปลือกโอบรอบ จึงเป็นสิ่งที่จะกักปรอทได้ดีที่สุด

โดยคุณ แมนลพบุรี (1.1K)  [ศ. 26 ก.ย. 2557 - 23:28 น.] #3483614 (3/16)


(N)
เมื่อหาทำเลและหาที่รองเพื่อดักปรอทได้แล้ว จึงนำไข่ไก่ที่ผูกกับสายสิญจน์เสกหลวงปู่จันทร์เสกมาตลอดหลายปีผูกติดกับไม่ไผ่มงคลที่ชื่อว่า ไผ่สีสุข แล้วนำไปปักริมน้ำ ทำพิธีขออนุญาติพระแม่คงคา เพื่อนำธาตุกายสิทธิ์ขึ้นมาอย่างได้ผล ต่อจากนั้นท่องคาถาเรียกปรอท ๓ จบ นั่นคือ เกศา โรมา นะขา ทันตา ตะโจ ตะโจ มังสัง กิโลมะกัง บุปผาสัง อันตัง อันตะคุณัง กะรีสัง ปิตตัง เสมหัง บุปโพ โรหิตัง เสโธ เมโธ อะสุวะรา เขโร สังคานิกา ระสิกา บุตตัง มัตตะรุงกันติ แล้วปักไว้ ๗ เพลา ๙ เพลา หรือตามที่กำหนดและละปรอท เมื่อได้ปรอทมาตามต้องการนั้น หลวงปู่ท่านบอกว่า ปรอทที่นำมานั้น ยังไม่บริสุทธิ์เพราะกินของเน่าอยู่ จะต้องนำมาทำให้ปรอทบริสุทธิ์เสียก่อน มิฉะนั้น ปรอทจะมีพิษ ทำอันตรายเราได้การที่เราจะให้ปรอทบริสุทธิ์นั้น ครูบาอาจารย์ท่านว่า การฆ่าปรอท คือการนำปรอทที่ได้มาใส่ภาชนะดินเผาเคลือบ เขียนยันต์ที่ปรอท นะมะพะทะ ด้วยไม้ไผ่สีสุข ใส่ข้าวสุกปากหม้อ ขอพระแม่โพสพ ล้างพิษปรอท หลังจากการแช่ปรอท ข้าวสุกจะกลายเป็นสีดำ จากนั้นกรองปรอทออกใส่ภาชนะดินเผาเคลือบ นำน้ำปลาร้าใส่ลงไป แช่ที่ปรอทไว้เป็นเวลา ๑ คืน เมื่อครบเวลา ซาวให้ได้ดี และนำปรอทออกใส่ภาชนะดินเผาเคลือบ นำมะนาวบีบไปในปรอทอีก และได้สักพักจึงนำปรอทมากรองออก เมื่อถึงขั้นตอนนี้ ปรอที่ได้คือปรอทบริสุทธิ์ ปรอทที่ผ่านพิธีการทำให้บริสุทธิ์แล้ว ปรอทนั้นก็ยังคงไม่มีฤทธิ์ สิ่งที่ทำให้ปรอทนั้นมีฤทธิ์หรือมีดีในตัวนั้น จะต้องเลี้ยงด้วยทองคำ จึงนำปรอทใส่ภาชนะดินเผา นำทองคำแท้ใส่ลงไปในปรอท เพื่อให้ปรอทได้กินของสูง จึงจะได้ปรอทที่สมบูรณ์พร้อมการบรรจุลงเบี้ยแก้

โดยคุณ แมนลพบุรี (1.1K)  [ศ. 26 ก.ย. 2557 - 23:29 น.] #3483615 (4/16)


(N)
ในการจัดสร้างครั้งนี้ ยังมีมวลสารอีกชนิดหนึ่งที่สำคัญ และเป็นที่นิยมหลวงปู่จันทร์ท่านบอกจะขาดเสียไม่ได้คือ ชันโรง ที่มียางเหนียวแน่น บรมครูของหลวงปู่ชอบนำมาเป็นมวลสาร หรือเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างวัตถุมงคลอยู่เสมอ เช่น การอุดฐานพระชัยวัฒน์ และการสร้างเบี้ยแก้ และอื่นๆอีกมากมาย ด้วยเหตุว่า การเอาชันโรงมาติดนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งที่บรรจุในองค์พระหลุดออกไป รงมถึงเบี้ยแก้ที่นำชันโรงมาปิดเพื่อมิให้ปรอทหลุดหล่นไปจากตัวเบี้ย ครูบาอาจารย์จึงถือว่า ชันโรงคือวัตถุกายสิทธิ์ที่ติดเหนียวแน่น เป็นผู้รักษาสิ่งที่เป็นมงคลนั้นๆ ไม่ให้หลุดหายไป จึงถือได้ว่าชันโรงนั้นเป็นธาตุกายสิทธิ์ ที่เกิดจากธรรมชาติ และเป็นมงคลอย่างยิ่งอีกชนิดหนึ่ง

โดยคุณ แมนลพบุรี (1.1K)  [ศ. 26 ก.ย. 2557 - 23:30 น.] #3483618 (5/16)


(N)


มาถึงมวลสารอีกชนิดหนึ่งซึ่งเป็นธาตุกายสิทธิ์อีกชนิดหนึ่งของการจัดสร้างเบี้ยแก้ในวาระนี้ คือ ขี้ครั่ง ขี้ครั่งเป็นธาตุกายสิทธิ์เช่นเดียวกับชันโรง เป็นชื่อแมลงชนิดหนึ่งที่อาศัยตามต้นไม้ต่าง ๆ เช่น จามจุรี (ก้ามปู) และพุทรา หลวงปู่จันทร์ท่านบอกบรมครูหลางองค์ท่านมักจะนำครั่งมาให้ทำวัตถุมงคลอยู่เสมอ เช่น หลวงพ่อน้อย วัดศีรษะทอง ท่านนำครั่งพุทธามาจัดสร้างวัวธนู เพื่อรำลึกถึงพระโพธิ์สัตว์ หรือโคดำ ในอดีตชาติของพระพุทธองค์ ชื่อว่า โคสุภราช เถราจารย์องคที่สองท่านเก่งเรื่องปลุกเสกครั่งให้มีอิทธิฤทธิ์ คือหลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวง เพชรบุรี ท่านมักจะนำครั่งมาพอกตะกรุด ติดหลังเหรียญ และวัตถุมงคลอีกหลายชนิด เช่น ลูกอม ก็มีเช่นกัน และฐานพระต่างๆ ด้วยเคล็ดลับที่ว่า เหนียวแน่นมีความคงทน เป็นธาตุกายสิทธิ์ สะสาร อีกชนิดหนึ่ง อยู่ในที่ร้อนจะอ่อนโยนในตัวเอง อยู่ในที่เย็นจะแข็งแกร่ง และมีความเป็นเอกในด้าน ยึดความเป็นมงคลให้อยู่ยงตลอดไป เคล็ดลับนี้จึงครบถ้วนเป็นมงคล องค์ที่สามจะไม่กล่างถึงก็คงไม่ได้ บรมครูครั่งที่จะต้องกล่าวถึงท่านอีกองค์หนึ่งนั้นก็คือ หลวงพ่อร้าย วัดเขายี่สาร สมุทรสาคร เถราจารย์ท่านนี้คือบรมครูครั่งองค์หนึ่งในสยาม มักจะนำครั่งมาจัดสร้างวัตถุมงคลอยู่เสมอและหลายอย่างด้วยกัน เช่น พระปิดตาและลูกอม ครั่งที่โด่งดังและหายากมาก ท่านยังจัดสร้างพระพิมพ์ต่างๆ อีกมากมายหลายพิมพ์ ด้วยเคล็ดลับที่ว่ายึดในความคงทน ความอ่อนโยน มีเมตตา ในยามร้อนรน เข้มแข็ง แกร่ง ในความเยือกเย็น ยึดแน่นในความดีงาม ยึดแน่นในสิ่งที่เป็นมงคล

ดังนั้นคุณสมบัติของครั่งที่หลวงปู่จันทร์ ได้นำมาจัดสร้างเบี้ยแก้ นั้นจึงไม่ต้องสงสัยว่าจะโดดเด่นเป็นมงคลเพียงไร

ในการจัดสร้างเบี้ยแก้ในวาระนี้ ยังมีมวลสารสำคัญที่จะส่งเสริมธาตุกายสิทธิ์ให้สมบูรณ์ ให้ได้มาซึ่งเบี้ยแก้ที่สมบูรณ์ตามตำราสายหลวงปู่จันทร์ยังมีอีกหลายชนิดด้วยกัน

โดยคุณ nuttaopoon (533)  [ศ. 26 ก.ย. 2557 - 23:44 น.] #3483646 (6/16)
เปิดจองวันไหนครับ

โดยคุณ ข้าวไทย (2.2K)  [ศ. 26 ก.ย. 2557 - 23:58 น.] #3483658 (7/16)

โดยคุณ pmgolf (28)(4)   [ส. 27 ก.ย. 2557 - 00:47 น.] #3483681 (8/16)

โดยคุณ เดชหนองแวง (905)  [ส. 27 ก.ย. 2557 - 06:37 น.] #3483723 (9/16)

โดยคุณ uthai08 (2.3K)  [ส. 27 ก.ย. 2557 - 09:31 น.] #3483841 (10/16)

..มวลสาร.สุดยอดมากครับ...

โดยคุณ pralike (1.4K)  [ส. 27 ก.ย. 2557 - 09:42 น.] #3483845 (11/16)
สุด...ยอด....

โดยคุณ james_15 (2K)  [ส. 27 ก.ย. 2557 - 09:53 น.] #3483875 (12/16)

โดยคุณ dumrongcha (710)  [ส. 27 ก.ย. 2557 - 12:01 น.] #3484031 (13/16)

โดยคุณ BeeyaArt (1.2K)  [ส. 27 ก.ย. 2557 - 13:09 น.] #3484089 (14/16)

โดยคุณ แผ่นดินไทย (365)  [อา. 28 ก.ย. 2557 - 11:03 น.] #3484802 (15/16)


สุดยอดไปเลยครับ...

โดยคุณ รักเบ๊นซ์ (715)  [พฤ. 02 ต.ค. 2557 - 10:29 น.] #3488368 (16/16)

!!!! กรุณา Login ก่อนจึงจะเสนอความคิดเห็นได้ !!!


Copyright ©G-PRA.COM