(N)
ในฉบับก่อนได้เล่าถึงสายวิชาของหลวงปู่ย้อยว่าท่านได้เรียนวิชา มีดหมอ มาจากหลวงพ่อเทศ วัดปากสระทะเลแล้ว ท่านยังเรียนวิชาเสือและปลัดขิกจากสองลูกศิษย์เอกของหลวงพ่อปาน วัดคลองด่าน คือ หลวงพ่อนก วัดสังกะสี และหลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก ต่อมาหลวงปู่ย้อยได้นำวิชาทั้งสองนี้แลกเปลี่ยนกับวิชาสายวัดประดู่ทรงธรรมกับหลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ ภายหลังหลวงพ่อนอได้นำวิชาปลัดขิกและวิชาเสือนี้ไปสร้างวัตถุมงคลจนโด่งดัง เรื่องนี้หลายท่านอาจจะกังขาว่าจริงหรือไม่? ปัจจุบันผู้ที่จะยืนยันได้มีเหลือเพียงคนเดียวเท่านั้นคือ พระเสถียร ธีรปญฺโญ พระเลขาผู้รับใช้ใกล้ชิดหลวงพ่อนอนานนับสิบๆปี (พระอาจารย์เสถียรนี้เป็นผู้ที่ได้รับการถ่ายทอดวิชาของหลวงพ่อนอมาทั้งหมด ลูกศิษย์ในสายหลวงพ่อนอทราบกันดี) จนกระทั่งหลวงพ่อนอมรณภาพลงสักระยะหนึ่ง ท่านจึงลาสิกขาบทมาเรียนต่อมหาวิทยาลัยและจบออกมารับราชการ ปัจจุบันอายุ ๗๔ ปี ผมจึงออกเสาะหาท่านจนในที่สุดก็ได้พบท่านจริงๆ ท่านได้ยืนยันในข้อมูลข้างต้นและรู้สึกดีใจที่หลวงปู่นาค วัดหนองพันเรือ ผู้สืบทอดวิชาสายเดียวกับหลวงพ่อนอ ยังมีชีวิตอยู่ เพราะท่านอาจารย์เสถียรยังคิดว่ามรณภาพ ไปนานแล้วเสียด้วยซ้ำไป ไม่คิดว่าหลวงปู่นาคพระลูกชายของหลวงปู่ย้อยจะมีอายุยืนถึง ๑๐๑ ปี
การพบกันในครั้งนี้นับว่าผมโชคดีถึงสองต่อ เพราะท่านอาจารย์เสถียรนั้นนอกจากจะเป็นศิษย์เอกของหลวงพ่อนอตัวจริงเสียงจริงแล้ว ยังเป็นลูกของโยมถ่าย โยมอุปัฏฐากใกล้ชิดของหลวงพ่อพรหม วัดช่องแค อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ ทำให้อาจารย์เสถียรได้รับการถ่ายทอดวิชาของหลวงพ่อพรหม วัดช่องแค จากปากของหลวงพ่อพรหมเองและจากคุณพ่อของอาจารย์มามากมาย ยิ่งเมื่ออาจารย์เสถียรทราบว่าผมเป็นศิษย์กรรมฐานในสายของหลวงพ่อพรหมด้วยแล้วท่านยิ่งเอ็นดูมากขึ้นไปอีก จึงทำการถ่ายทอดวิชาของทั้งสองพระเกจิอาจารย์ให้ผู้เขียนจนหมด
กลับมาที่เรื่องการเรียนวิชาของหลวงปู่ย้อยพ่อของหลวงปู่นาค นอกจากท่านจะเรียนวิชาจากพระเกจิอาจารย์ดังกล่าวข้างต้นแล้ว ท่านยังได้เรียนวิชากับหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่าด้วย วิชาของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่ามีมากมายและล้ำลึกพิสดาร ลูกศิษย์ของท่านแต่ละคน ไม่เคยได้วิชาซ้ำกันเลย อย่างเช่นวิชาสัตว์ต่างๆที่หลวงปู่ศุขมอบให้ลูกศิษย์ของท่านนั้น หลวงพ่อสำเภา วัดหัวสะพาน ได้วิชาเต่าเรือน หลวงปู่หน่าย วัดบ้านแจ้ง ได้วิชาจิ้งจก หลวงปู่สุภา วัดศีลสุภาราม ได้วิชาแมงมุม ลูกศิษย์แต่ละรูปต่างก็ได้มารูปละอย่างที่ไม่เหมือนกัน การลงตะกรุดก็เช่นกัน หลวงพ่อปลื้ม วัดสังฆาราม ก็ได้ไปแบบหนึ่ง หลวงพ่อโม วัดจันทนาราม ก็ได้ไปอีกแบบหนึ่ง อย่าว่าแต่จะได้ไปคนละวิชา จึงไม่เหมือนกันเลย วิชาเดียวกันยังได้ไปคนละแบบอีกต่างหาก อย่างเช่นยันต์นะฤๅชาแบบที่หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ได้ถ่ายทอดให้หลวงพ่อสำเนียง อยู่สถาพร (โอรส ของพระเจ้าวรวงศ์เธอกรมหลวงชุมพรเขตุอุดมศักดิ์ กับ หม่อมทองนุ่น ) วัดเวฬุวนาราม จ.นครปฐม นั้นทำให้หลวงพ่อสำเนียงโด่งดังขึ้นมาราวกับพลุแตก ท่านบอกว่า วิชานี้ จะทำให้คนต้องมาหาเรา ยิ่งเสกยิ่งดัง เรานี่จะเป็นผู้เจิมหลักเมืองนครปฐมเธอคอยดู เดี๋ยวเขาต้องมานิมนต์เราไปเจิม ทำให้คนที่ได้ยินท่านพูดรู้สึกว่าหลวงพ่อพูดเกินจริงไปหรือเปล่า แม้ลูกศิษย์ใกล้ชิดของท่านเองก็ยังแทบไม่เชื่อเลย เพราะขณะนั้นหลวงพ่อสำเนียงก็ยังไม่ได้โด่งดังอะไร แถมอายุและพรรษายังน้อยมากเมื่อเทียบกับพระเกจิในจังหวัดนครปฐมรูปอื่นๆ แต่ผลสุดท้ายคณะทำงานของศาลหลักเมืองก็มานิมนต์ท่านจริงๆ เพราะตอนที่พวกเขาไปนิมนต์ หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม ซึ่งดังมากในตอนนั้น มาเจิมหลักเมือง หลวงพ่อเงินท่านให้ไปนิมนต์หลวงพ่อสำเนียงมาเจิมนะฤๅชาด้วย หลังจากนั้นเป็นต้นมาหลวงพ่อสำเนียงจึงดังเป็นพลุแตก |